วันนี้ (7 มกราคม) ที่อาคารรัฐสภา กลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ นำโดย นันทนา นันทวโรภาส, เทวฤทธิ์ มณีฉาย และ นรเศรษฐ์ ปรัชญากร แถลงข่าวแสดงจุดยืนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นันทนากล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชน ในส่วนของกลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ มีมติร่วมกัน พร้อมแสดงจุดยืนว่าเราสนับสนุนร่างฉบับของพรรคประชาชน เรายินดีจะลดอำนาจของ สว. ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากฉบับปัจจุบันที่ให้ใช้ สว. 1 ใน 3 ซึ่งเรามองว่า สว. ไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง กระบวนการที่ได้มาไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศได้
“เรายินดีจะสละอำนาจที่จะลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ผู้ที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่แท้จริงคือ สส. ได้เป็นผู้ลงมติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นสิ่งที่ตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด” นันทนากล่าว
นันทนากล่าวด้วยว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เราสนับสนุนให้มีผู้แทนที่มาร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชนโดยตรงคือการเลือกตั้ง 100% เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นเจตจำนงของประชาชน บรรจุอยู่ในกฎหมายสูงสุดของประเทศ
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และ 2 นั้น นันทนากล่าวว่า เราชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีที่มาจากการรัฐประหาร เมื่อจุดตั้งต้นไม่ใช่มาจากประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญทั้งร่างจึงมีข้อกำหนด บท และมาตราต่างๆ ที่บิดเบี้ยวและมีช่องโหว่มากมาย ดังนั้นถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ควรจะยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปแก้ไขรูปแบบของรัฐ ระบอบการปกครอง แต่ที่แก้ทั้งฉบับ เพื่อให้ที่มาของรัฐธรรมนูญมาจากประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านเทวฤทธิ์ระบุว่า ประเด็นนี้อาจมีการหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อกังวล หรือบางครั้งอาจถูกลากไปเป็นเกมการเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ได้หมายความว่าจะมีการแก้ไขหมวด 1 และ 2 แต่เป็นการย้ำว่าเป็นการสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และที่สำคัญหมวดดังกล่าวก็เคยมีการแก้ไขในรัฐธรรมนูญหลายฉบับ โดยเป็นการแก้ถ้อยคำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และคนที่แก้มากที่สุดคือ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งแปลกใจว่าทำไมไม่ไปถามมีชัยกันบ้าง