×

สุดารัตน์-สุพันธุ์ ชูนโยบายไทยสร้างไทยต้านคอร์รัปชัน เปิดยุทธศาสตร์ 8 ด้าน ยกระดับคะแนนชี้วัดคอร์รัปชันให้ดีขึ้น

โดย THE STANDARD TEAM
09.12.2022
  • LOADING...

วันนี้ (9 ธันวาคม) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวถึงนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยด้านการปราบคอร์รัปชัน  

 

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงสถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทยซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงและตกต่ำอย่างที่สุด ดัชนีชี้วัดการคอร์รัปชันปี 2564 ซึ่งเป็นดัชนีภาพลักษณ์ความโป่รงใส หรือ CPI ไทยได้เพียง 35 คะแนน และได้ลำดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ เป็นตัวเลขที่ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับแต่เราเข้าร่วม CPI ปี 2538 เราสอบตกมาโดยตลอด ยิ่งหลังการรัฐประหารที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ้างเหตุเรื่องการคอร์รัปชันในการรัฐประหาร การคอร์รัปชันกลับยิ่งเลวร้ายลงในปี 2557 ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันไทยอยู่ที่ 38 คะแนน ได้ลำดับที่ 85 ของโลก แต่จากการปกครองประเทศของผู้ที่อาสาจะเข้ามาปราบโกงคะแนน CPI ตกลงมาโดยตลอด 

 

ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทยจึงมีเป้าหมายในการกำจัดคอร์รัปชันโดยขอประกาศการปฏิวัติคอร์รัปชันให้เป็นวาระแห่งชาติ และจะทำให้คะแนนดัชนีภาพลักษณ์ความโปร่งใสของไทยขึ้นมาอยู่ที่ 50 คะแนนให้ได้ 

 

ขณะที่สุพันธุ์กล่าวว่า จากความเลวร้ายที่เกิดขึ้นพรรคไทยสร้างไทยจึงมียุทธศาสตร์ในการปฏิวัติการคอร์รัปชันของประเทศไทย ผ่านยุทธศาสตร์ทั้ง 8 ด้าน ประกอบไปด้วย

 

  1. ผู้นำตั้งใจจริง ผู้นำประเทศจะต้องมีความตั้งใจจริงที่จะปราบคอร์รัปชันให้สิ้นซาก การปราบคอร์รัปชันจึงจะประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน ผู้นำประเทศจะต้องเป็นต้นแบบในการถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อแสดงความจริงใจ ความโปร่งใส และสร้างบรรทัดฐานให้กับผู้อื่นต่อไป โดยเรื่องดังกล่าวต้องถูกประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่เอามาเป็นข้ออ้างในการรัฐประการ แต่การทุจริตกลับเพิ่มขึ้น

 

  1. ทุกคนต้องถูกตรวจสอบหมด การปราบคอร์รัปชันต้องจริงจังในทุกภาคส่วน องค์กรตรวจสอบก็ต้องถูกตรวจสอบด้วยโดยไม่มีข้อยกเว้น เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แล้วเปิดเผยต่อสาธารณชนทุกปี รวมไปถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย เพื่อความโปร่งใสและลดโอกาสในการกระทำการทุจริต 

 

  1. มีเส้นตายการสืบสวนสอบสวนและการพิจารณาคดี การสืบสวนสอบสวนการทุจริต ต้องมีการกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จให้ชัดเจน เมื่อถึงกำหนดเวลาหากการสืบสวนสอบสวนไม่แล้วเสร็จ จะต้องมีการทำรายงานชี้แจงต่อหน่วยงานตรวจสอบถึงเหตุผลของการล่าช้า

 

  1. ลงโทษหนักทั้งผู้ให้ผู้รับ โดยสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้คนไทยโกงไม่มีที่ยืนในสังคม ไม่ใช่เพียงภาครัฐ แต่ภาคเอกชนก็ต้องเข้ามาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง นโยบายของพรรคไทยสร้างไทยจึงมีความพยายามในการดึงภาคเอกชนเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด

 

  1. ให้อำนาจประชาชนแจ้งเบาะแสและฟ้องได้โดยตรง การแจ้งเบาะแสเรื่องทุจริต จะต้องสะดวกง่ายดายและเป็นความลับ มีระบบคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส สามารถร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจะต้องจัดไว้ตามองค์กรภาคธุรกิจ ชุมชน และสถาบันการศึกษา เมื่อได้รับการร้องเรียน องค์กรที่รับผิดชอบจะต้องมีการตอบสนองต่อการร้องเรียนอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง และต้องแจ้งกลับผู้ร้องเรียนว่าจะดำเนินการอย่างไรภายใน 14 วัน 

 

  1. สื่อมวลชนมีเสรีภาพ เสรีภาพของสื่อมวลชนต้องได้รับการรับรองและคุ้มครองอย่างเต็มที่ รวมถึงสิทธิการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพราะเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล องค์กรอิสระและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบการทำงานขององค์กรและหน่วยงานปราบคอร์รัปชัน 

 

  1. นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเหมือนกับในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อป้องกันการโกงโดยใช้ AI หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท จะต้องนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาบริหารจัดการเพื่อป้องกันการโกง ไม่ใช่ปล่อยให้มีผีมารับเงินบำนาญประชาชน และยังเป็นการลดต้นทุน ลดงบประมาณ และป้องกันการทุจริตได้

 

  1. ให้อำนาจประชาชนผ่านสภาชุมชนกำหนดงบประมาณและตรวจสอบการใช้งบประมาณ เช่น การกำหนดงบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่น ให้ใช้วิธีการ Participatory Budgeting ซึ่งกำหนดให้ท้องถิ่นหรือชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดงบประมาณของโครงการในพื้นที่ ตั้งแต่เริ่มวางแผนโครงการเพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตตั้งแต่ต้น และกำหนดให้ท้องถิ่นหรือชุมชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการ การตรวจรับงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จ โดยผ่านกลไกสภาชุมชนมาร่วมตรวจรับงาน มีสิทธิในการคัดค้าน
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X