วันนี้ (25 เมษายน) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พรรคไทยสร้างไทย นำโดย ปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์, รณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรค และทีมกฎหมาย เดินทางมายื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ เหตุทำค่าไฟฟ้าแพง
ปริเยศกล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยมาทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาเรื่องของค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงที่ผ่านมาการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับค่าไฟฟ้านั้นล้มเหลว และไม่มีแนวโน้มที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ หลายครั้งเลือกใช้วิธีเยียวยาซึ่งไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด เพราะฉะนั้นพรรคไทยสร้างไทยมาขับเคลื่อนทำหน้าที่ตรงนี้แทนประชาชนในการที่จะดำเนินการเรียกร้องในครั้งนี้
ในส่วนของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้องที่มีการพูดถึงมาโดยตลอดคือ พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2540 และ พ.ร.บ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 โดยประชาชนมีข้อสงสัยหลายเรื่องหลังจากหลายพรรคการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์และชี้ให้เห็นถึงปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าไฟฟ้าส่วนเกิน (ค่า Ft) ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยขอเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับต้นตอปัญหาที่ทำให้ค่าไฟแพง
ด้านรณกาจกล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลและรับฟังเสียงความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชน พบว่าตามข้อเท็จจริงในปี พ.ศ. 2555 มีการประมูลโรงไฟฟ้าขนาด 5,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การประมูลในครั้งนั้นมีเสียงวิจารณ์และเกิดคำถามมากมายจากฝั่งของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ว่าการประมูลนี้เกิดขึ้นโดยมีเอกชนรายใหญ่อยู่จำนวนหนึ่งที่ได้สัมปทานไปทั้งหมด และ พ.ศ. 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ เข้ามาบริหาร คำถามที่สำคัญคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2555 รัฐบาลของยิ่งลักษณ์โปร่งใสมากน้อยเพียงใด และคำถามเหล่านี้ถูกโยงมาจนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือไม่ ถ้าความเห็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นหมายความว่า รัฐบาลปัจจุบันไม่แก้ไขปัญหาค่าครองชีพและค่าไฟที่แพงขึ้น หากไม่เห็นด้วยก็ควรต้องเร่งเดินหน้าเจรจาสัญญาให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น
พรรคไทยสร้างไทยมองว่า การกระทำของเจ้าพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ.) จัดการซื้อและได้ใช้อำนาจในตำแหน่งทุจริตหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์ รัฐ และประชาชน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนคู่สัญญาให้ได้รับประโยชน์จากค่า Ft แล้วผลักภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน เป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 จึงขอศาลฯ โปรดพิจารณารับฟ้องและไต่สวนมูลฟ้องเรียกพยานหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของผู้เกี่ยวข้องเพื่อเอาผิดต่อไปด้วย
ทั้งนี้ศาลฯ ได้รับคำร้องไว้พร้อมนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในขั้นตรวจคำฟ้อง ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ต่อไป