วันนี้ (20 เมษายน) พรรคไทยสร้างไทยจัดประชุมใหญ่ ‘ไทยสร้างไทย ก้าวต่อไปเพื่อคนตัวเล็ก’ โดยมีแกนนำพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พร้อมด้วยสมาชิกพรรคกว่า 500 คน ในการประชุมครั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย ได้ประกาศอุดมการณ์พรรค โดยเฉพาะการสร้างนโยบายเพื่อช่วยคนตัวเล็ก การมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ โดยมีคนรุ่นใหญ่เป็นฐาน และมีคนรุ่นใหม่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และก้าวต่อไปอย่างมั่นคงบนพื้นฐานของอุดมการณ์ประชาธิปไตย ซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญา ไม่ทรยศหักหลังประชาชน ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า การเมืองในปัจจุบันและในอนาคตแตกต่างจากในอดีต ที่การใช้อิทธิพล ระบบอำนาจนิยม รวมถึงการใช้เงินทองในการซื้อเสียง จะไม่สามารถชนะเลือกตั้งได้ พร้อมประกาศด้วยว่า
“ตราบใดที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังยากจน มีความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ คนตัวเล็กยังขาดโอกาส ดิฉันและพรรคไทยสร้างไทยจะเดินหน้าทำงานอย่างรู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อพี่น้องคนตัวเล็กจะได้รับโอกาสในการสร้างงานสร้างอาชีพ มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ”
ทุกนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน สร้างความเท่าเทียม เช่น บำนาญประชาชน 3,000 บาท ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสังคมผู้สูงวัย ทำให้ผู้สูงอายุสุขภาพดี และกลับไปทำงานได้ กองทุนเครดิตประชาชน ให้ประชาชนทุกคนมีเครดิตตั้งแต่ 10,000 บาทจนถึง 100,000 บาท เพื่อเป็นทุนตั้งตัวไปตลอดชีวิต โดยรัฐให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้คนยากจนเข้าถึงแหล่งทุนและสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง
กองทุนเครดิตประชาชนจึงมีหลักคิดต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล ที่ใช้เงินมหาศาลถึง 5 แสนล้านบาท กลายเป็นภาระหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน เพราะเงินมาจากการกู้ยืม ธกส. และการจัดงบแบบขาดดุล ซึ่งก็คือการกู้เงินอยู่ดี โดยเฉพาะการไม่แจกเป็นเงินสด จะไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหมุนเป็นพายุได้ เพราะคนจนจะไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง จะได้เพียงการซื้อข้าวของมาใช้เพียงชั่วคราว และสังคมยังมีข้อสงสัยเรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย ว่าทำไมไม่แจกเป็นเงินสดอย่างตรงไปตรงมา
“ที่สำคัญพรรคไทยสร้างไทย เราวางจุดยืนเป็นพรรค Progressive Conservative คือการรักษาและต่อยอดจุดแข็งของประเทศ คือความเป็นชาติไทย และการที่เรามีสถาบันฯ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ทำให้คนไทยอยู่ร่วมกัน รักกันแบบพี่น้องร่วมชาติ เชื่อมกับแนวคิดประชาธิปไตยเพื่อประชาชน การสร้างความยุติธรรม การกระจายโอกาสให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน การขจัดคอร์รัปชัน และการนำวิทยาการสมัยใหม่มาขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้า ทั้งมิติเศรษฐกิจ ความรู้ และสังคม”
ดร.โภคิน พลกุล กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง สร้าง Smart Power ให้เกิดขึ้นในสังคม ขณะเดียวกันพรรคไทยสร้างไทยยังคงเข็มมุ่งในการสร้างนโยบายดูแลคนทุกช่วงวัยตั้งแต่เกิดจนแก่ให้อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความมั่นคงในชีวิต โดยพรรคจะเดินหน้าสร้างนโยบายกองทุนเครดิตประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงนโยบายบำนาญประชาชน ตลอดจนการแขวนกฎระเบียบที่ล้าหลังให้กับคนตัวเล็ก
นอกจากนี้ยังเห็นว่า ความแตกต่างของช่วงวัยจะกลายเป็นโจทย์สำคัญ และทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งพรรคจะต้องหันมาจับกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จึงเป็นที่มาที่ทำให้เราตั้งเข็มมุ่งในการดูแลประชาชนทุกช่วงวัย บนหลักการในการยึดประชาธิปไตยที่ตอบโจทย์ภราดรภาพโดยไม่โกหกหลอกลวงประชาชน
ในการประชุมพรรคอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ คือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และเลือก ชัชวาล แพทยาไทย สส. จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นเลขาธิการพรรค รวมทั้งเลือกคนรุ่นใหม่เป็นรองหัวหน้าพรรค และรองเลขาธิการพรรค ในอีกหลายตำแหน่งสำคัญ เช่น สมชาย เวสารัชตระกูล, กิติ วงษ์กุหลาบ, เทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน เป็นรองหัวหน้าพรรค ส่วน นรุตม์ชัย บุนนาค, รณกาจ ชินสำราญ, ณัฐวัฒน์ พอใช้ได้, ภัทรดนัย ใหม่พระเนตร, วรวุฒิ โตวิรัตน์ และ รัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ เป็นรองเลขาธิการพรรค
ส่วนตำแหน่งสำคัญอื่นๆ พรรคไทยสร้างไทยก็ได้ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ โดยผลักดันให้ ปริเยศ อังกูรกิตติ เป็นโฆษกพรรคไทยสร้างไทย, ภัชริ นิจสิริภัช เป็นเหรัญญิกพรรค และ ศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ เป็นนายทะเบียนพรรค