วันนี้ (30 กันยายน) พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ทำพิธีส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือให้แก่ พล.ร.อ. จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ ที่ท้องพระโรง พระราชวังเดิม โดยมีนายทหารชั้นนายพลที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งใหม่ เข้าร่วมพิธี
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า พล.ร.อ. จิรพล เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 เป็นนักเรียนนายเรือที่ได้รับคัดเลือกไปเรียนที่โรงเรียนนายเรือเมอร์วิค ประเทศเยอรมนี แล้วกลับมาใช้ชีวิตราชการเฉกเช่นนายทหารเรือที่จบจากโรงเรียนนายเรือ ผ่านการศึกษาหลักสูตรภาคบังคับครบทุกหลักสูตร และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน, ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยเป็นผู้บังคับการเรือ ผู้บังคับหน่วย ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในหน่วยศึกษา ฝ่ายอำนวยการ หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ ผบ.ทร. เชื่อมั่นว่า พล.ร.อ. จิรพล จะนำความรู้ความสามารถที่สั่งสมมานำพากองทัพเรือให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม เต็มภาคภูมิต่อไป
ขณะที่ พล.ร.อ. จิรพลกล่าวชื่นชม พล.ร.อ. อะดุง ในการดำรงตำแหน่ง ผบ.ทร. ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ว่า พล.ร.อ. อะดุง ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในภารกิจสำคัญในการพัฒนากองทัพเรือ ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้กองทัพเรือ เป็นผลให้กองทัพเรือมีความเจริญก้าวหน้า เป็นที่ยอมรับศรัทธาของประชาชน ในวาระที่ พล.ร.อ. อะดุง เกษียณอายุราชการ กำลังพลทุกนายขอจดจำคุณงามความดีที่ได้กระทำไว้อย่างไม่ลืม รวมทั้งจะถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติราชการ
ทั้งนี้ภายหลังพิธีส่งมอบหน้าที่ นายทหารและกำลังพลกองทัพเรือได้ตั้งแถวมอบดอกกุหลาบให้กับ พล.ร.อ. อะดุง ตั้งแต่หลังท้องพระโรง พระราชวังเดิม ไปจนถึงทางเข้า บก.ทร.วังเดิม โดยระหว่างทาง พล.ร.อ. อะดุง ถึงกับร้องไห้ และกล่าวอำลากับกำลังพลตอนหนึ่งว่า “ช่วงหลังเจอทัวร์เยอะเหลือเกิน”
ก่อนที่ พล.ร.อ. อะดุง จะขึ้นรถออกจาก บก.ทร. ได้กล่าวกับ พล.ร.อ. จิรพลว่า “ดูแลกองทัพเรือด้วย ทำให้ดีที่สุด ลบคำครหาและคำปรามาสนะ” จากนั้น พล.ร.อ. จิรพลตอบกลับว่า “จะทำเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถ” และทั้งคู่ได้สวมกอดกัน จากนั้นขบวนรถของ พล.ร.อ. อะดุง ได้เคลื่อนออกจาก บก.ทร.
หากไร้เรือดำน้ำ- อาวุธ ความสามารถถดถอย ทุกฝ่ายต้องรับได้
ต่อมา พล.ร.อ. จิรพลให้สัมภาษณ์ระบุว่า ตำแหน่งนี้ต้องดูแลกองทัพเรือ เป็นภาระที่หนักอึ้ง เมื่อมีคำสั่งให้ทำหน้าที่ ตนก็ต้องพร้อมทำหน้าที่ ยืนยันว่ากำลังพลของเราทำงานร่วมกัน มีความกลมกลืน ทุกคนรู้หน้าที่ ทำงานในหน้าที่ได้อย่างชัดเจน ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องดี ตนยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น แล้วต้องหาข้อมูลและหลักการมาวิเคราะห์เพื่อหาทางออก ความคิดเห็นแตกต่างไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ส่วนที่อดีต ผบ.ทร. แนะนำให้ทำหน้าที่ให้เต็มที่เพื่อลบคำสบประมาท พล.ร.อ. จิรพล กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของทุกคน ไม่ว่าตนหรือใครที่ขึ้นมาตำแหน่งนี้ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่มีใครสามารถย่อหย่อนได้เลย เพราะความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญของชาติ ส่วนหลักคิดที่ทำให้ตนเดินหน้าต่อไปได้นั้นก็คือการคิดบวก ไม่เอาเรื่องเนกาทีฟมาใส่ใจ รับฟังทุกเรื่องและหาข้อมูลมาวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ ซึ่งก็เชื่อว่าทุกคนมีหลักคิดเดียวกัน
สำหรับแนวทางผลักดันโครงการจัดหาเรือดำน้ำนั้น พล.ร.อ. จิรพลระบุว่า ในช่วงเช้าได้หารือกับ พลร.อ. อะดุง ในเบื้องต้นได้เสนอไปที่กระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอเวลาศึกษา ตนก็จะขอเข้าไปชี้แจงว่าประเด็นที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง และจะเข้าไปชี้แจงประเด็นที่รัฐมนตรีหนักใจทั้งหมด ซึ่งเรือดำน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นกำลังรบสำคัญที่เราวางแผนไว้ ทั้งหมดอยู่ในแผนพัฒนากำลังรบของกองทัพเรือ และเป็นหน้าที่ของเราที่เราต้องเข้าไปชี้แจงให้ทุกฝ่าย รวมถึงคณะกรรมาธิการฯ ให้เข้าใจถึงความสำคัญของความมั่นคงทางทะเล
“ปัจจุบันไม่ใช่แค่ในประเทศเราอย่างเดียว สองขั้วอำนาจใหญ่ก็กระทบกันแรง แต่ไทยเป็นประเทศไม่ใหญ่นัก ก็จะถูกแรงกระแทกตรงนี้เข้าไปด้วย เราก็จะบอกรัฐบาลว่าจะเตรียมพร้อมได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลเข้าใจโครงการก็จะเดินหน้าต่อ” พล.ร.อ. จิรพลกล่าว
สำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกตในงบประมาณประจำปี 2569 นั้น พล.ร.อ. จิรพลกล่าวว่า กองทัพมีแผนพัฒนากำลังรบอยู่แล้ว ทั้งเรืออากาศยาน เรือดำน้ำ รถรบ ยานเกราะ ปืนใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะถูกนำไปเรียนรัฐมนตรีให้เห็นความสำคัญของเรา และถึงเวลาที่จะขึงแผนร่วมกัน ถ้าท่านเห็นชอบด้วยก็เดินหน้า ส่วนแนวทางในการชี้แจงให้กับหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาล และคณะกรรมาธิการฯ นั้น ก็คงเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันว่ากองทัพมีหน้าที่สนับสนุนความมั่นคงให้กับประเทศและรัฐบาล
“ถ้ารัฐบาลบอกว่าเอาไว้ก่อน ความสามารถของเราก็จะถดถอยลง ถ้ารัฐบาลยอมรับได้ รวมถึงฝ่ายค้านยอมรับได้ กองทัพเรือไม่สามารถไปดึงดันอะไรได้ ทุกคนต้องยอมรับร่วมกันว่าถ้าเราไม่มีสิ่งนี้จะทำอะไรไม่ได้บ้าง เท่านั้นเอง” พล.ร.อ. จิรพลกล่าว
ยังไม่ฝันไกลซื้อเรือดำน้ำเยอรมนี ขอก้าวทีละก้าว
เมื่อถามว่า ในฐานะที่จบจากโรงเรียนนายเรือ ประเทศเยอรมนี และจบหลักสูตรดำน้ำ จะแก้ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ และอนาคตจะซื้อเรือดำน้ำเยอรมนีหรือไม่ พ.ร.อ. จิรพลกล่าวว่า ต้องค่อยๆ ก้าวเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ โดยดูว่ารัฐมนตรีสงสัยเรื่องอะไรก่อน ตนก็จะเข้าไปชี้แจง ซึ่งเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าชัดเจนอยู่แล้ว