วันนี้ (16 มิถุนายน) พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่าการดูแลพื้นที่ชายแดนยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่จำเป็นต้องคุมเข้มเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นที่รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความวิจารณ์กัมพูชานั้น พล.ท. บุญสิน ชี้แจงว่าเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ท่าทีของกองทัพ สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนร่วม (JBC) ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปนั้น ต้องรอหัวหน้าคณะเจรจาเป็นผู้แถลงผลอย่างเป็นทางการ
พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า สำหรับท่าทีของกองทัพหลังจากนี้ จะเป็นการหารือในระดับ Regional Border Committee (RBC) ซึ่งจะมีการพูดคุยกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา โดยต้องยึดตามเจตนารมณ์และแนวทางของผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี ฝ่ายไทยพยายามที่จะไม่ตรึงกำลังทหารตามแนวชายแดนเป็นเวลานาน
โดยจะมีการหารือกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อหาโอกาสในการถอนทหารทั้งสองฝ่ายให้เหลือไว้เท่าที่จำเป็น ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มที่ดี และจะต้องมีการพูดคุยถึงรายละเอียดการถอนกำลัง รวมถึงการจัดชุดตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่ามีการถอนกำลังจริง การประชุม RBC จะเป็นการเปิดเผย ไม่มีลับ และมติการถอนกำลังทหารจะต้องผ่านการรับรองจากการประชุม RBC ก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชายังคงยึดแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 พล.ท. บุญสิน ย้ำว่า นั่นเป็นเรื่องของกัมพูชา ส่วนฝ่ายไทยยังคงยึดแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งเป็นอธิปไตยของไทย และเรื่องนี้เป็นประเด็นที่รัฐบาลจะต้องหารือกันให้ชัดเจนต่อไป แม้กัมพูชาจะยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว ฝ่ายไทยก็จะยังคงตรึงกำลังและรอการพูดคุยเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย
แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในบางพื้นที่ที่กัมพูชามีการเปิด-ปิดด่าน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยชี้ว่าจุดเริ่มต้นของปัญหามาจากการที่กัมพูชาเคลื่อนกำลังเข้ามาวางกำลังในพื้นที่ที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน
อย่างไรก็ตาม พล.ท. บุญสิน เชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้ในที่สุด และย้ำว่าจุดเปราะบางที่ช่องบกก็คลี่คลายแล้ว ส่วนการที่ทหารกัมพูชาหันปากกระบอกปืนนั้นเป็นเรื่องปกติของการทหารที่คงไม่หันเข้าประเทศตัวเอง
นอกจากนี้ พล.ท. บุญสิน ยังกล่าวขอบคุณชาวบ้านที่เปรียบตนเสมือนพ่อบ้านที่ทำให้ชาวบ้านใจฟู โดยระบุว่าตนมีความจริงใจ และชาวบ้านก็รับรู้ว่าทหารพร้อมที่จะปกป้องแผ่นดินเสมอ
พล.ท. บุญสิน เผยว่า การพบปะกันของกำลังทหารทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินการสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และสามารถพูดคุยกันรู้เรื่อง โดยต่างฝ่ายต่างรับนโยบายจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูงมาปฏิบัติ พล.ท. บุญสิน เน้นย้ำว่า สำหรับเรื่องแผนที่ 1:200,000 ที่กัมพูชาอ้างว่าไทยยอมรับนั้น ทางไทยไม่ได้ยอมรับ และเป็นความพยายามของกัมพูชาที่รัฐบาลไทยจะต้องแก้ไขปัญหาต่อไป โดยทหารในพื้นที่ยังคงยึดถือแผนที่ 1:50,000 ของกรมแผนที่ทหาร
แม่ทัพภาคที่ 2 ยังเชื่อมั่นว่าการเจรจาเป็นวิธีเดียวที่จะไม่ต้องขัดแย้งกันด้วยกำลัง และยังคงเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการ โดยคาดว่าจะมีการประชุมระหว่างแม่ทัพทั้งสองฝ่ายเร็วขึ้น ซึ่งจะต้องรอสัญญาณและกรอบการพูดคุยจากผู้บัญชาการทหารบก
พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นในตัวแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ที่จะเข้ามารับช่วงต่อว่าจะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมและทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ
สุดท้าย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวถึงกระแสชื่นชมจากสังคมออนไลน์ รวมถึงการขึ้นป้ายให้กำลังใจที่อุดรธานี โดยแสดงความยินดีและขอบคุณทุกคน พร้อมยอมรับว่าไม่รู้สึกเขินที่ถูกแซวว่าเป็น ‘แม่ทัพมนต์แคน’ และดีใจที่เหมือนนักร้องชื่อดัง แต่ย้ำว่าตนเป็นทหาร คงร้องเพลงสู้ไม่ได้
