×

อัตราเงินเฟ้อไทยติดลบ 5 เดือนติด -0.79% ใน ส.ค. หนักสุดรอบ 19 เดือน พาณิชย์มั่นใจยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

04.09.2025
  • LOADING...

อัตราเงินเฟ้อไทยติดลบ 5 เดือนต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม โดยลดลง 0.79%YoY ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ยันไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก และการลดลงของราคามาจากอุปทานเป็นหลัก ขณะที่กำลังซื้อและอุปสงค์มีผลน้อยกว่า

 

วันนี้ (4 กันยายน) ณัฐิยา สุจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย (Headline CPI) เดือนสิงหาคม 2568 เท่ากับ 100.14 เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งเท่ากับ 100.94 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง หรือ ‘ติดลบ’ 0.79%YoY

 

โดยมาจากปัจจัยหลัก ดังนี้

 

  • การลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่ เนื่องจากอุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มพลังงานจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก และค่ากระแสไฟฟ้าจากมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

 

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมอาหารและพลังงาน พบว่า มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.81% (YoY) แต่ชะลอลงจากเดือนกรกฎาคม 2568 ที่สูงขึ้น 0.84%YoY

 

สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเฉลี่ย 8 เดือน (มกราคม-สิงหาคม) ของปี 2568 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 สูงขึ้น 0.08% (AoA)

 

ยันไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

 

ณัฐิยายืนยันว่า ไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังมีการปรับตัวเป็นบวก โดยเสริมว่าภาวะเงินเฟ้อที่ปรับลดลงมาจากปัจจัยฝั่งอุปทานมากกว่าฝั่งอุปสงค์ ขณะที่ปัจจัยด้านกำลังซื้อและอุปสงค์มีผลกระทบน้อยกว่า

 

คาดเงินเฟ้อไทยยังคงลดลงต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม สนค. คาดการณ์ว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนปี 2568 จะยังคงลดลง โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่

 

  • ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย
  • ราคาผักสดและผลไม้สดอยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น
  • การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และสภาวะการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูง

 

สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่

 

ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารที่มีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น

 

อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงต้องติดตามคือ ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกอาจมีความผันผวนจากสถานการณ์ที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานของตลาดโลก

 

ทั้งปีเสี่ยงเฟ้อต่ำแค่ 0.1%

 

ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ายังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 อยู่ระหว่าง 0.0-1.0% (ค่ากลาง 0.5%) และจะมีการปรับคาดการณ์ใหม่อีกครั้งหลังจบไตรมาส 3

 

โดยคาดว่าไตรมาส 4 จะติดลบ 0.24%YoY ซึ่งดีกว่าอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะติดลบ 0.66% แต่ยังต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้เดือนก่อน ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับมาพลิกบวกในไตรมาส 4 ทำให้อัตราเงินเฟ้อไทยทั้งปีเสี่ยงโตต่ำแค่ระดับ 0.1%

 

เงินเฟ้อไทยต่ำสุดในอาเซียน

 

โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.7%YoY อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 7 จาก 138 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข และต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนจาก 9 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (บรูไน, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และ สปป.ลาว)

 

  • 🇹🇭ไทย -0.7%
  • 🇧🇳บรูไน -0.2%
  • 🇸🇬สิงคโปร์ 0.6%
  • 🇵🇭ฟิลิปปินส์ 0.9%
  • 🇲🇾มาเลเซีย 1.2%
  • 🇰🇭กัมพูชา 1.66%
  • 🇮🇩อินโดนีเซีย 2.37%
  • 🇻🇳เวียดนาม 3.19%
  • 🇱🇦สปป.ลาว 5.3%
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising