วันนี้ (27 มกราคม) กระทรวงการต่างประเทศ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือในกรอบคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) โดยมี ธนา เวสโกสิทธิ์ เป็นประธาน เพื่อประเมินสถานการณ์และเป็นการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย และพื้นที่อื่นๆ ในจีน
นับตั้งแต่เกิดเหตุโรคระบาดในจีน รัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนได้หารือกันอย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับการดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนให้ความมั่นใจว่าจะดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งรับผิดชอบดูแลนครอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ออกประกาศแจ้งข้อควรปฏิบัติให้คนไทยในนครอู่ฮั่นและเมืองใกล้เคียงหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ชุมชนแออัดที่อาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และทราบถึงข้อควรปฏิบัติหากพบว่าตนเองป่วย พร้อมทั้งแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ไทยในจีน นอกจากนี้สถานกงสุลใหญ่ไทยอื่นๆ ในจีนอีก 9 แห่ง ได้ออกประกาศในทำนองเดียวกันแล้ว ทั้งนี้ข้อมูลปัจจุบันมีคนไทยในนครอู่ฮั่นจำนวน 64 คน และอีก 18 คนอยู่ในมณฑลหูเป่ย โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปิดภาคการศึกษาและปลอดภัย
ผลการประชุมของคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC)
ที่ประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) เห็นว่า โดยขณะนี้ทางการจีนมีการจำกัดการเข้าออกในพื้นที่ของนครอู่ฮั่นอย่างเด็ดขาด ซึ่งมาตรการนี้เป็นมาตรการที่จีนพยายามควบคุมพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคฯ และยังไม่อนุญาตให้ประเทศใดเข้าไปในพื้นที่ได้ ที่ประชุมจึงได้จัดเตรียมซักซ้อมแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทย รวมทั้งการเตรียมมาตรการทางสาธารณสุขภายในรองรับให้พร้อม หากได้รับการอนุญาตจากทางการจีนให้เข้าพื้นที่ได้ ทั้งนี้ ทางการไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสิ่งของจำเป็นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ ให้แก่จีน โดยจะหารือกับจีนในโอกาสแรกต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: