“งิ้วต่องต้อนละแขนอยู่แปะปาย งิ้วต่องต้อนละแขนอยู่แปะปาย ลมพัดสีนวยนาย พัดใบเอยตองงิ้ว ตองงิ้ว ตองงิ้ว” ส่วนหนึ่งของเนื้อร้องเพลง ‘งิ้วต่องต้อนอ้อนผู้บ่าว’ ซึ่งถูกขับขานโดย ‘บานเย็น รากแก่น’ ศิลปินแห่งชาติชื่อดังของไทย ในงาน Thai Festival 2019 ที่จัดขึ้นริมคลองชองกเยชอน ใจกลางกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี สถานที่ท่องเที่ยวสุตฮิตที่หลายคนต้องแวะมาถ่ายภาพ และชื่นชมความงามในการพัฒนาคลองสายนี้
เป็นการกลับมาอีกครั้งกับเทศกาลเชื่อมสัมพันธ์ผ่านวัฒนธรรมสองชาติ Thai Festival 2019 ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับทีมประเทศไทย จัดงานดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 เม.ย. 2562 โดยครั้งนี้ได้มีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ผ่านการแสดงของสองศิลปินแห่งชาติ คือ แม่บานเย็น รากแก่น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-หมอลำ) ประจำปี พ.ศ. 2556 และอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) ประจำปี พ.ศ. 2559 โดยการสนับสนุนของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เปิดเผยว่า เรามีความตั้งใจที่จะทำให้คนเกาหลีรู้จักประเทศไทยมากขึ้น เพราะทั้งสองประเทศเรามีความสัมพันธ์ในทางประวัติศาสตร์มายาวนาน ปีที่ผ่านมานำเสนอในลักษณะความเป็นไทย ปีนี้ก็นำเอาสิ่งที่ทันสมัย นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาจัดแสดงผสมผสาน เช่น การโชว์กราฟฟิตี้หรือโปสเตอร์ เป็นการนำเอาศิลปะเก่าใหม่มาผสมกัน เอาของเกาหลีและไทยมาผสานกัน
“ต้องบอกว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่สำคัญของคนเกาหลี การแสดงชุดหนึ่งที่เราเอามานำเสนอคือ แพรวาจีจี้ ให้เห็นการผสมผสานของวัฒนธรรม”
นายสิงห์ทองกล่าวอีกว่า เป็นโอกาสให้แรงงานไทยที่นี่ได้มาเที่ยว มาพบกับบรรยากาศของไทย หากเขาคิดถึงบ้านจะได้พอหายคิดถึงบ้านได้บ้าง ขณะเดียวกันวัฒนธรรมของไทยเป็นที่สนใจของคนเกาหลี โดยเฉพาะอาหารไทย เพื่อให้ได้เห็นในหลายๆ ด้าน ดึงดูดให้เขาไปท่องเที่ยวในไทย ซึ่งปีหนึ่งเดินทางไปเที่ยวไทยถึง 1.8 ล้านคน
สำหรับบรรยากาศภายในงานทั้งสองวันต้องบอกว่าคึกคัก ได้รับความสนใจจากชาวเกาหลี และชาวต่างชาติอื่นๆ รวมทั้งคนไทยทั้งที่พำนักอยู่ที่นี่ หรือเดินทางมาท่องเที่ยว บูธอาหาร เครื่องดื่ม ซุ้มประดับประดาที่จัดตกแต่งขึ้นเพื่อนำเสนอความเป็นไทยได้รับความสนใจในการถ่ายภาพมากเป็นพิเศษ กิจกรรมบนเวทีที่นำมาโดยสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้รับการตอบรับมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน
เสียงเพลงจากแม่บานเย็น รากแก่น และแคนดี้ รากแก่น ลูกสาว ที่นำมาจัดแสดงให้คนไทยได้ม่วนซื่นถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญ พี่น้องไทยที่โซลส่วนหนึ่งเป็นแรงงานที่มาทำงานที่นี่ จังหวะการลำและการขับร้องเหมือนส่งให้พี่น้องไทยและเกาหลีได้ตื่นเต้นกับท่วงทำนอง การสื่อสารผ่านวัฒนธรรมเหล่านี้จึงเป็นเสมือนความไร้พรมแดน ที่ดึงเอาจุดร่วมในเส้นทางวัฒนธรรมมาพบกัน
พี่น้องไทยหลายคนวาดลวดลายฟ้อนแบบไม่เก้อเขิน สนุกสนานอย่างเต็มที่ ท่านทูตและภริยารวมถึงเจ้าหน้าที่นำฟ้อนอย่างไม่ถือตัว ทุกคนสนุกกับกิจกรรม ทิ้งความเมื่อยล้าจากงานไว้ก่อน แม่บานเย็นเป็นเสมือนสัญญะของไทบ้าน ที่ทำให้พวกเขาหายคิดถึงบ้านขึ้นมาบ้าง
เสียงขลุ่ยจากอาจารย์ธนิสร์ ปลุกเร้าวิญญาณความเป็นไทยได้อย่างไพเราะ ทั้งบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่กินใจ บทเพลงที่มีท่วงทำนองสนุกสนานที่แสดงกลางลานของงาน ทำให้ชาวเกาหลีหลายคนต้องออกมาร่วมสนุกด้วย
นี่เป็นเพียงบรรยากาศของงานในสองวันเท่านั้น ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้วัดที่ปริมาณผู้คน แต่ผลลัพธ์ที่เห็นแล้วคือความตั้งใจของไทยและเกาหลี ที่จะจับมือผสานวัฒนธรรม รวมทั้งแบ่งปันสิ่งดีๆ ของทั้งสองประเทศร่วมกัน