กระทรวงพาณิชย์เผย ส่งออกไทยขยายตัว 7% ในเดือนสิงหาคม หลังจากขยายตัวกว่า 15% ในเดือนก่อน คาดเงินบาทแข็งเริ่มเห็นผลกระทบปลายปี
วันนี้ (25 กันยายน) พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคมมีมูลค่า 26,182.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.0% ขณะที่การส่งออกไทย 8 เดือนแรกของปี 2567 พบว่าขยายตัว 4.2%
พูนพงษ์กล่าวอีกว่า การส่งออกในเดือนที่ผ่านมาขยายตัวในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวสูง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมก็เติบโตได้ดี มีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพภูมิอากาศที่ผันผวนในหลายประเทศ ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคบริการในตลาดสำคัญ ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้น
รวมทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น กระตุ้นความต้องการสินค้าจากไทย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือที่ลดลง โดยเฉพาะเส้นทางการขนส่งไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนลดลง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
ส่วนการนำเข้าในเดือนสิงหาคมมีมูลค่า 25,917.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.9% ทำให้เกินดุลการค้า 264.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำให้ภาพรวม 8 เดือนแรกของปี 2567 การนำเข้ามีมูลค่ารวม 203,543.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.0% ทำให้ดุลการค้า 8 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 6,351.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เปิดแนวโน้มการส่งออกในปี 2567
กระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะเติบโตต่อเนื่อง พร้อมคงเป้าไว้ที่ขยายตัวราว 2% เช่นเดิม แต่ระบุว่า ส่งออกทั้งปีก็มีโอกาสจะสูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าหลัก
ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่า ค่าเฉลี่ยเงินบาททั้งปีอยู่ที่ราว 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกที่สำคัญจากสัญญาณการคลี่คลายของภาวะเงินเฟ้อระดับสูงในหลายประเทศ และแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นการบริโภคในตลาดโลก
ขณะที่ความต้องการสินค้าเกษตรไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศคู่ค้า และสภาพภูมิอากาศที่ผันผวนทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตในหลายประเทศ
นอกจากนี้ แนวโน้มการชะลอตัวของอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ส่งออกไทย
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจกระทบต่อการส่งออกไทยในระยะถัดไป เช่น ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง ค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหาอุทกภัยในประเทศที่อาจส่งผลต่อปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตร
โดยกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกไทย เพื่อให้มั่นใจว่าการส่งออกจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยต่อไป
บาทแข็งจะส่งผลต่อส่งออกไทยเมื่อไร?
ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ผลจากการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้ คาดว่าจะเห็นผลกระทบในช่วงปลายปี หรือราวเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
เนื่องจากผู้ประกอบการกำลังเจรจาคำสั่งซื้อใหม่ขณะนี้ และจะส่งมอบสินค้าในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม แต่ด้วยการแข็งค่าของเงินบาทในปัจจุบัน อาจทำให้ผู้ส่งออกไม่กล้ารับคำสั่งซื้อจนอาจมีผลต่อการส่งออกได้
นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรืออัตราส่วนกำไร (Margins) อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร