สมาคมบริษัทจัดการลงทุนและสมาชิกบริษัทจัดการลงทุน 19 แห่ง โชว์ความพร้อมสนับสนุนภาครัฐโดยกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรในการสนับสนุนให้เกิดเสถียรภาพในตลาดทุนไทย และส่งเสริมกิจการที่มุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ พร้อมนำเสนอ 37 กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ซึ่งประกอบด้วยกองทุนรวมประเภทหุ้นไทย 22 กองทุน และกองทุนรูปแบบผสม 15 กองทุนที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ทำงานประจำ ประกอบธุรกิจส่วนตัวหรือผู้มีอาชีพอิสระ (Freelance) ที่ต้องการการลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในวงเงินที่เพิ่มขึ้น โดยทั้ง 37 กองทุนจะเริ่มเปิดเสนอขายพร้อมกันในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
ชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ภาครัฐโดยกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน รวมถึงเห็นประโยชน์ของกองทุน Thai ESG ที่ได้เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อสองปีก่อน
ดังนั้นจึงได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับกองทุนน้องใหม่คือ Thai ESGX ทั้งในส่วนของวงเงินลดหย่อนใหม่พิเศษอีก 300,000 บาท และวงเงินลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาวที่ใส่ใจความยั่งยืนด้วยการสับเปลี่ยน LTF มายัง Thai ESGX ในวงเงินรวมอีก 500,000 บาท หรือรวมเป็นวงเงินลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 8 แสนบาท ในรอบปีภาษี 2568-2572 นั้น
ในฐานะผู้บริหารและจัดการลงทุนจึงตั้งใจและพร้อมใจกันที่จะแสดงถึง ความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมเพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าการลงทุนของตนจะมีประสิทธิภาพในระยะยาว มีส่วนช่วยรักษาเสถียรภาพตลาดทุนไทย และมีส่วนช่วยผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทยและบริษัทผู้ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนให้มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality, Net Zero มีการใส่ใจสังคมและการยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลเพื่อร่วมผลักดันให้ประเทศไทยมีความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
โดยที่ผ่านมา AIMC ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนายกระดับ ESG ในตลาดทุนไทย ทุก บลจ. ได้ดำเนินการตามนโยบายธรรมาภิบาลการลงทุน (I-code Policy) การนำปัจจัยด้าน ESG มาใช้ในกระบวนการคัดเลือกสินทรัพย์และการลงทุน การเตรียมการในการบริหารจัดการและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Climate-related Risk)
รวมถึงการมีคณะทำงานร่วม AIMC – ESG Policy and Collective Action เพื่อตรวจสอบติดตามบริษัทจดทะเบียนที่อาจไม่ปฏิบัติตาม ESG และความร่วมมือในการจัดทำ Negative List เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้จัดการกองทุนใช้กลั่นกรองบริษัทจดทะเบียนเพื่อลงทุน เป็นต้น ดังนั้นผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่า บริษัทจัดการลงทุนจะสามารถบริหารจัดการกองทุนในรูปแบบ ESG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักสากล
ผู้สนใจสามารถลงทุนใน Thai ESGX วงเงินลดหย่อนใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.นี้ หรือแจ้งความประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ที่มีอยู่ทั้งหมด ทุกกองทุน ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.นี้เช่นกัน โดยทั้งส่วนเงินลงทุนเพิ่ม หรือส่วนสับเปลี่ยน LTF เดิม สามารถดำเนินการได้ภายใน 30 มิ.ย.นี้เท่านั้น ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัด บลจ. และผู้สนับสนุนการขายที่ได้รับการแต่งตั้งจึงพร้อมแล้วที่จะร่วมมือกันเพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำผู้ลงทุน และสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน Thai ESGX และรวมถึง ThaiESG สามารถติดต่อโดยตรงกับบริษัทจัดการลงทุนหรือตัวแทนขายที่ได้รับการแต่งตั้ง และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมครบวงจรได้ที่ WWW.ThailandESG.com
เปิดรายชื่อกองทุนรวม Thai ESGX ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.
ณ 30 เมษายน 2568
ภาพ: Graphic and Photo Stocker/Shutterstock