วันนี้ (5 กุมภาพันธ์) วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดการการศึกษาของประเทศไทย หลายปีที่ผ่านมาเห็นความพยายามของรัฐบาลที่จะทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะยังคงเป็นการแก้ปัญหาแบบเดิมๆ ดูจากการระบาดของโควิด-19 ครั้งแรก มีการผลักดันการเรียนออนไลน์ กระทรวงศึกษาธิการผลักภาระในการจัดหาอุปกรณ์ทางการศึกษาให้กับผู้ปกครอง ทั้งคอมพิวเตอร์ ทั้งสมาร์ทโฟน และระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่กระทรวงศึกษาธิการก็ไม่เดินหน้าต่อในโครงการนี้ ส่งผลให้ผู้ปกครองต้องเสียเงินโดยใช่เหตุแต่รัฐบาลก็ไม่สนใจ
ล่าสุด จากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ กระทรวงศึกษาก็นำรูปแบบนี้มาเริ่มต้นใหม่ โดยไร้แผนการบริหารจัดการในการที่จะทำให้เด็กทุกคนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา รัฐบาลเปิดการเรียนการสอนรอบใหม่ทั่วประเทศ หลายโรงเรียนเปิดได้แต่ต้องจัดรูปแบบใหม่ ทั้งเรียนในห้องเรียนและเรียนผ่านระบบออนไลน์ ก็ถือว่าดี แต่ในขณะที่เด็กในพื้นที่สีแดงเข้มจำนวนมากกว่า 1.7 แสนคนไม่มีที่เรียน สอดรับกับการวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ชี้ให้เห็นว่า การเรียนออนไลน์ของไทยยังไม่มีคุณภาพพอ
วันนิวัติกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณีนักศึกษาจบมาแล้วไม่มีงานทำ ซึ่งในแต่ละปีมีนักศึกษาจบจากระบบมหาวิทยาลัยสู่สังคมประมาณ 5 แสนคนต่อปี ซึ่งตกงานทันทีมากกว่าปีละ 3 แสนคน หลายปีที่ผ่านมาพบว่ามีนักศึกษาจบใหม่ตกงานมากกว่า 2-3 ล้านคน ที่เป็นเช่นนี้เพราะกระทรวงศึกษาธิการไม่เคยแก้ปัญหาหรือไม่ให้ความสำคัญ ไม่มีการผลิตนักศึกษาให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐมนตรีศึกษาอยู่แต่ในห้องแอร์ ไม่เคยรับรู้ถึงความต้องการแรงงานจริง การแก้ปัญหาจึงไม่เกิดขึ้น” วันนิวัติกล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์