วันนี้ (23 เมษายน) เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี (สอจังหวัดชลบุรี) เข้าตรวจสอบ บริษัท ชลบุรี สเปเชียล สตีล กรุ๊ป จำกัด ที่ ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบริษัทไทย-ทุนจีน โดยมี บริษัท เถิง เฟิง สตีล จำกัด เป็นผู้ลงทุนและมีสำนักงานอยู่ในบริเวณเดียวกัน
ฐิติภัสร์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนบริเวณใกล้เคียงว่า บริษัทชลบุรีฯ และ บริษัทเถิง เฟิงฯ ซึ่งทีมตรวจการสุดซอยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เคยเข้าตรวจสอบทั้ง 2 บริษัท และทำการยึดอายัดเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐาน มูลค่ารวมกว่า 23 ล้านบาท และทางจังหวัดชลบุรี ได้ยกระดับคำสั่งในส่วนของโรงหลอมให้หยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมด และให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน เพื่อขออนุญาตประกอบกิจการอีกครั้ง เมื่อเดือน ก.พ. 68 ที่ผ่านมา ยังคงลักลอบประกอบกิจการผลิตเหล็ก และปล่อยมลพิษ จากเตาหลอมโลหะที่ใช้การเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความร้อนจนโลหะหลอมละลาย หรือเตาหลอมแบบ IF (Induction Furnace) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพิ่งมีข้อสั่งการให้เสนอวาระเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เพื่อพิจารณายกเลิกการรับรองมาตรฐาน เนื่องจากการหลอมเหล็กแบบ IF ไม่สามารถควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์ได้ เป็นเหตุสำคัญทำให้เหล็กตกคุณภาพ เช่นกรณี บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด (SKY)
“ในขณะเข้าพื้นที่ก็พบว่า มีการหลอมเหล็กเพื่อผลิตเหล็กเส้นกันตามปกติ และกำลังจะนำออกจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้หยุดการผลิตและเข้ายึดอายัดเหล็กที่ผลิตเสร็จล็อตใหม่ และเหล็กที่อยู่ในกระบวนการผลิต รวม 115,480 เส้น น้ำหนักกว่า 582 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 11.53 ล้านบาท พร้อมดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งตามข้อมูลเบื้องต้นยังอาจเข้าข่ายคดีพิเศษ จึงจะเสนอให้ดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษด้วย” ฐิติภัสร์ ระบุ
ทั้งนี้ เบื้องต้น บริษัท ชลบุรีฯ จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 5 พันบาท จนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ นอกจากนี้ ยังมีความผิดฐานขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานเหล็กเส้นอีกด้วย จึงเป็นเหตุแห่งการเพิ่มโทษอีกเท่าตัว หรือจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงฐานสมรู้ร่วมคิดในการผลิตและจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) กำหนด อันเป็นเหตุให้เข้าใจผิดว่า เหล็กที่ผลิตจาก บริษัทเถิง เฟิงฯ เป็นเหล็กผลิตจาก บริษัท ชลบุรีฯ ด้วย
ในส่วนของบริษัท เถิง เฟิงฯ จะถูกดำเนินคดีฐานทำผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐานลักลอบติดเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีไว้เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังได้เข้าตรวจสอบคนงานภายในโรงงาน พบว่า มี 6 รายที่เป็นสัญชาติจีน และไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงได้จับกุมเพิกถอนวีซ่า และดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศทันที