จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการ THE STANDARD NOW ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ต่อท่าทีของ หลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยระหว่างการดำเนินมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์
จักรภพระบุว่า จริงๆ แล้ว เพราะรัฐบาลไทยตัดสินใจจะปราบคอลเซ็นเตอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีนถึงได้มา ถือว่ากลับข้างกัน ก่อนหน้านี้หลิวจงอี้มาในภารกิจอื่น แต่กลับมาอีกครั้งหนึ่งในอีกภารกิจหลังจากรัฐบาลไทยตัดสินใจ
“ได้ยินว่ามีความตกลงกันระหว่างไทยกับจีน ซึ่งทำให้ไม่เหมือนกรณีประมงไทย เมียนมาจับคนไทยไปก็ต้องติดคุกและขึ้นศาล ยังกลับคืนมาไม่ได้ 4 คน หลายคนเอาไปเทียบว่าพอเป็นจีนแล้วส่งตัวกลับได้ทันที นั่นเพราะเรามีความตกลงเพิ่มเติมระหว่างจีนกับไทยในเรื่องคอลเซ็นเตอร์” จักรภพกล่าว
จักรภพกล่าวต่อไปว่า จีนถึงขนาดเข้ามาอุดหนุนช่วยเหลือทางการทหารกับกลุ่มว้าแดง เพื่อเป็นทางนำไปสู่การปราบปรามปัญหาคอลเซ็นเตอร์ เพราะเกรงว่ากรณีนี้จะเป็นเรื่องทางการเมือง เป็นกระบอกเสียงในการยุยงให้รัฐที่อยู่ชายขอบคิดแข็งข้อกับปักกิ่ง หรือคิดแยกดินแดน
“จีนมีประสาทไวกับเรื่องพวกนี้มาก อ่อนไหวมาก ดังนั้นจีนลงทุนเยอะเพื่อเข้าไปตรงนี้ พอเรารู้ตรงนี้แล้วก็คุยกันแบบนอกรอบ ได้ยินว่าข้อตกลงนี้จะจริงไม่จริงไม่รู้ แต่ถ้าจับตัวคนจีนที่อยู่เบื้องหลังคาสิโนออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ การทำผิดกฎหมายทั้งหลาย ส่งตัวกลับไปเมืองจีน โอกาสจะโดนโทษประหารชีวิตมีสูง”
จักรภพยังกล่าวชี้แจงถึงลำดับเหตุการณ์ที่ถูกมองว่าไทยเริ่มมีมาตรการปราบคอลเซ็นเตอร์ชัดเจนภายหลังหลิวจงอี้เดินทางเข้ามา ตามด้วยการไปเยือนจีนของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และเข้าพบ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยระบุว่า เหตุการณ์นำมาเรียงใหม่ได้ เมื่อไทยพร้อมเราทำทันที ขณะเดียวกันจีนก็เรียกมาต่อยอด โดยนำข้อตกลงเดิมที่มีอยู่มาทำตอนนี้
“พูดง่ายๆ คือจีนก็รอจังหวะที่ไทยพร้อม จีนเคลื่อนไหวเรื่องคอลเซ็นเตอร์มาหลายปีแล้ว ไทยเคลื่อนไหวทีหลัง ดังนั้นถ้าจะพูดได้ตามหลักฐานที่เกิดขึ้นก็คือจีนรอไทย ไม่ใช่ไทยรอให้จีนมา”
จักรภพย้ำว่าขอให้สบายใจได้ว่าผู้ที่มาก่อนหน้ารัฐบาลชุดนี้ได้ใช้ความเก่งกล้าในการเจรจาให้เราพ้นจากสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่มีใครจะเอากลับไปใส่มือใครหรอก เราไปอยู่ภายใต้สหรัฐอเมริกาช่วงสงครามเย็นที่ผ่านมา เราจะต้องวิ่งกลับไปหาจีนอีกหรือ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประเทศไทยเราระวังตัว เพียงแต่ว่าภาพที่ออกมาอาจจะลืมจัดการตรงนี้กัน ก็ขอให้เพิ่มเข้าไปนิดหนึ่งสำหรับคราวหน้า คราวหน้าอย่าให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีนมาเดินเฉยๆ ก็ให้เราพาไป” จักรภพกล่าว