วันนี้ (14 มิถุนายน) กัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เขียนโพสต์นี้ขึ้นมาด้วยเจตจำนงที่ดีต่อประเทศไทยในการที่ต้องเตรียมความพร้อมที่จะไม่เพลี่ยงพล้ำในเกมการเมืองระหว่างประเทศ อยากให้ไทยมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ในการเมืองโลก ไม่อยากให้โลกสวยเกินไปและปิดกั้นคนไทยในการมีส่วนร่วมทางการทูต เพราะการทูตศตวรรษที่ 21 นี้คือการทูตสาธารณะ หรือ Public Diplomacy
“การที่รองนายกฯ ภูมิธรรม ออกมาบอกว่าขอให้ฟังข้อมูลทางการอย่างเดียว อย่าฟังข้อมูลที่บิดเบือนที่จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา และมองโลกสวยว่าทั้งสองประเทศกำลังหาข้อยุติได้ ผมว่ารองนายกฯ คงต้องเข้าใจงานด้านการต่างประเทศให้มากกว่านี้ กัมพูชาเขาซัดเราตรงๆ และเต็มๆ ว่าไม่คุยใน 4 ที่ จะเอาเข้าศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และเอ่ยชื่อกลไกสหประชาชาติด้วย มันมีนัยและความหมายอย่างไร ต้องอ่านให้ออกนะ”
กัณวีร์กล่าวว่า กัมพูชายืนยันตลอดมาว่าจะไม่คุยปัญหา 4 จุดใน JBC ครั้งนี้ เพราะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยทวิภาคี MOU43 เพราะมันล่าช้า และต้องการหาคนกลางหรือ ‘มือที่ 3’ มาไกล่เกลี่ยให้ แล้วไทยจะเสนออะไรและยังไง
“เราต้องยอมรับว่ากัมพูชาฝีมือในการเมืองระหว่างประเทศเหนือชั้นกว่าไทย ไม่ว่าการวางตัวในเวทีโลก การหาแรงสนับสนุนจากทวิภาคีกับมหาอำนาจอย่างจีน ฝรั่งเศส ฯลฯ ลูกเล่นในการใช้กลไกระดับพหุภาคี ที่พยายามย้ำเสมอถึง ICJ และหลุดออกมาหลังๆ อย่างชัดเจนจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถึงการใช้เวทีสหประชาชาติ”
กัณวีร์กล่าวว่า กัมพูชาเดินเกมนี้แน่นอน อย่างที่ตนย้ำเสมอว่ากัมพูชาจะจี้เข้าไปถึงการเสนอร่าง ข้อมติ หรือ Resolution ของ UNGA เพราะไทยเราก็ต้องนั่งอยู่ในนั้น หนีไปไหนไม่ได้ ไทยเราเตรียมตัวสู้อะไรบ้างหรือยัง เพราะดูเงียบจริงๆ
“อย่าหลงจุดหลงประเด็นกันในเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า หนังไทยในกัมพูชา การเปิดปิดจุดผ่านแดน ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะหน้าเพียงอย่างเดียว ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สำคัญ มันสำคัญที่กระทบต่อคนในพื้นที่ทั้งสองฝั่ง เพราะต้องใช้ชีวิตกันตลอดเวลา แต่อย่าทำให้ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เบี่ยงเป้าประสงค์หลักของสถานการณ์นี้จากฝั่งกัมพูชาด้วย”
กัณวีร์กล่าวย้ำว่า การเรียกกระแสนิยมภายในประเทศกัมพูชาในตัวผู้นำ คือ ฮุน มาเนต คือเป้าหมายหลักของกัมพูชา จะเห็นว่ากัมพูชาจะเอาไทยไปเชือดในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อเรียกกระแสนิยมจากคนในชาติ
“เริ่มจาก JBC วันนี้ เอาให้เขาเสียขบวนทางการทูต ยืนยันจะคุยจุดข้อพิพาททั้งหมดที่ไทย-กัมพูชา มีทั้ง 30 จุด และยืนยันว่ากรณีพิพาททางเขตแดนต้องแก้ไขด้วยทวิภาคีตามข้อตกลงเท่านั้น เพราะมันได้รับการ Recognized ทางการตกลงของเราไว้เรียบร้อยแล้ว ผมคง hint ได้แค่นี้ ที่เหลือรัฐบาลต้องโชว์ฝีมือและศิลปะให้ได้ ว่าหากเขาเอาด้วยจะทำไงต่อ และหากเขาไม่เอาด้วยจะทำยังไงต่อ”
กัณวีร์กล่าวว่า รัฐบาลต้องคิด ต้องวางแผน ต้องวางโรดแมป และกางมันออกมา การประชุมวันนี้ ตนก็เห็นว่ามีตัวหลักสำคัญของเราที่มีข้อมูลทั้งหมดส่งผู้แทนไปร่วมประชุม
กัณวีร์ย้ำด้วยว่า อย่าปิดกั้นคนในประเทศในการเสนอข้อคิดเห็นด้วยตรรกะและเราจำเป็นต้องใช้ Public Diplomacy ในการทำงานด้านนี้ ที่ต้องสอดรับกับนโยบายและแผนงานภายในประเทศเรื่องการพัฒนาถึงจะแก้ไขปัญหาได้ รอฟังผลวันนี้กัน และจะประเมินให้ฟังต่อไป