วานนี้ (24 พฤศจิกายน) หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ได้บูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงและพัฒนาประกอบด้วย ชุดสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (กรมแผนที่ทหาร), ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2, หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 2, หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 (สนภ.1 นทพ.), หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนจันทบุรี และชุดรักษาความปลอดภัย ต.เทพนิมิตร รวมกำลังพลฝ่ายไทย 60 นาย
คณะทำงานฝ่ายไทยได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา จำนวน 40 นาย เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจและปักหมุดชั่วคราว ระหว่างหลักเขตแดนที่ 57-58 โดยในวันนี้สามารถดำเนินการปักหมุดได้จำนวน 8 หมุด (รหัส TM57-20 ถึง TM57-27) รวมระยะทาง 400 เมตร
จากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสถิติความคืบหน้า ดังนี้:
- ► จำนวนหมุด: ปักแล้วเสร็จ 157 หมุด จากเป้าหมาย 166 หมุด (คิดเป็น 94.58%)
- ► ระยะทาง: ครอบคลุมพื้นที่ 7.85 กิโลเมตร จากระยะทางทั้งหมด 8.3 กิโลเมตร
ประเด็นสำคัญในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ คือการกำหนดแนวเขตแดนเพื่อการปักหมุดชั่วคราว เป็นการอ้างอิงตามที่ตั้งหลักเขตแดนเดิมที่เคยมีการปักไว้ในอดีตเมื่อกว่า 120 ปีที่ผ่านมา โดยทางหน่วยงานยืนยันชัดเจนว่า “ไม่ได้มีการปักตาม หรือนำแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 มาใช้ในการอ้างอิงแต่อย่างใด”
การดำเนินงานของชุดสำรวจฯ ในครั้งนี้ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการรักษาความถูกต้องของเส้นเขตแดนตามหลักภูมิสารสนเทศสากล โดยมีการนำเทคโนโลยี ดาวเทียมและโดรน มาใช้ในการรังวัด วางหมุด และจัดทำแผนผัง เพื่อให้พิกัดเขตแดนมีความแม่นยำสูงสุด โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสความคลาดเคลื่อนในอนาคต และเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างยั่งยืน
สำหรับกำหนดการในวันนี้ (25 พฤศจิกายน) คณะทำงานมีแผนนัดพบกับฝ่ายกัมพูชาในเวลา 09.00 น. ณ บริเวณหมุดชั่วคราว TM57-34 เพื่อดำเนินการปักหมุดต่อเนื่องอีก 7 หมุด (ตั้งแต่ TM57-28 ถึง TM57-34) ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย
