วันนี้ (29 พฤษภาคม) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงกรณีการจัดทำงบประมาณเพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง อาทิ การจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ว่า สส. บางท่านเรียกร้องว่า การจัดทำงบประมาณสามารถดึงกลับไปแก้แล้วกลับเข้ามาใหม่นั้น ท่านอาจจะไม่เข้าใจ เพราะ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 20 กำหนดกรอบเวลาการจัดทำไว้ชัดเจน
ส่วนการคาดการณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน 1 ปี เพื่อจัดสรรงบประมาณให้เกิดความเหมาะสมที่สุด อาจมีความคลาดเคลื่อนเป็นธรรมดา แต่คณะรัฐมนตรีไม่สามารถดึงงบประมาณกลับไปแก้แล้วส่งมาใหม่ เพราะกระบวนการพิจารณางบประมาณอาจจะไม่ทันและไม่สามารถประกาศใช้ได้ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาเมื่อปี 2567 ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของปีถัดมา ชะลออย่างเห็นได้ชัด เพราะงบประมาณซึ่งเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหายไป งบประมาณช้ากว่ารอบปกติเนื่องจากการเลือกตั้ง
จุลพันธ์กล่าวว่า หากเรามัวแต่กังวลกับสมมติฐานว่าตัวเลขจะคลาดเคลื่อนหรือไม่ หากสถานการณ์ภาษีสหรัฐฯ เกิดในช่วงเดือนกันยายน งบประมาณทุกอย่างที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว จะต้องมาชะงักปรับแก้อีกหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นไปไม่ได้
“นี่คือความฉลาดและความถูกต้องของผู้ร่าง พ.ร.บ. ในเรื่องของการทำเกี่ยวกับวิธีการงบประมาณที่เขาทำเอาไว้ นั่นคือกระบวนการงบประมาณมีความยืดหยุ่น แล้วมันมีขั้นตอน ซึ่งสามารถรองรับสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ หลังจากพิจารณาผ่านวาระหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว อีกขั้นตอนของ กมธ. ที่จะเกิดขึ้นคือ การปรับแก้ ปรับลด แปลคืน ในส่วนที่มีความจำเป็นและเหมาะสม”
จุลพันธ์กล่าวอีกว่า หลังจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 ผ่านการพิจารณาในขั้นตอนของสภา และวุฒิสภาแล้ว ก็ยังมีอำนาจในส่วนของฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำ เช่น อธิบดีของหน่วยงานที่จะสามารถพิจารณาในการปรับแก้ปรับเปลี่ยน ยืนยันว่า ไม่ว่าเหตุการณ์ใดๆ จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม ประเทศไทยเราจะมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนแปรเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
จุลพันธ์กล่าวอีกว่า สมมติฐานที่ผู้นำฝ่ายค้านยกมาว่ามันผิด เช้าวันนี้ไม่ถูกต้องแล้ว ไม่ได้หมายความว่าท่านมีความผิด วินิจฉัยสถานการณ์ผิดพลาด เมื่อเช้าศาลการค้าของสหรัฐฯ ได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลก ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เมื่อเกิดแล้ว
วันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะที่ปรึกษา หารือกันที่บ้านพิษณุโลกว่าเราจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างไร สส. ก็ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไร เราจึงต้องมานั่งย่อยกระบวนการต่างๆ เมื่อถึงขั้นตอนของ กมธ. แต่ละพรรคจะมีความเห็นอย่างไร ก็ยินดีปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศ
นอกจากนี้จุลพันธ์ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่มีความใกล้เคียงเป็นรัฐล้มเหลว อย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านได้อภิปรายและมีสื่อมวลชนนำเรื่องนี้ไปเสนอ เราไม่มีสงครามกลางเมืองและรัฐบาลก็ยังบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างครบถ้วน ยังไม่มีการบุกรุกพื้นที่ชายแดน ซึ่งท่านก็ทราบดีว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เป็นโวหารทางการเมือง ขอให้มีความรับผิดชอบในการใช้คำ ท่านไม่ได้ทำร้ายรัฐบาล ท่านไม่ชอบรัฐบาลได้ แต่ท่านต้องรักษาประเทศ เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภายนอก ทำให้มองประเทศไทยในเชิงลบ
“ท่านไม่ชอบรัฐบาลได้ แต่อย่าใช้คำว่ารัฐล้มเหลว ไม่ถูกต้องและไม่ใกล้เคียง” จุลพันธ์กล่าว
