วันนี้ (9 ธันวาคม) เมื่อเวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ผลกระทบจากการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีต่อสถานศึกษา โดยระบุว่าล่าสุดยอดโรงเรียนที่ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนได้พุ่งสูงขึ้นเป็น 990 แห่งแล้ว จากเดิมเมื่อวานนี้ (8 ธันวาคม) มีจำนวนกว่า 600 แห่ง
โดยทางกระทรวงฯ จะประเมินสถานการณ์ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และจะอนุญาตให้กลับมาเปิดเรียนได้ก็ต่อเมื่อได้รับสัญญาณยืนยันความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายต่ออาคารสถานที่ของโรงเรียนแต่อย่างใด
ส่วนโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อรองรับประชาชนที่อพยพหนีภัยการสู้รบ
ในส่วนของการดูแลช่วยเหลือประชาชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการระดมทีมอาชีวะศึกษา ซึ่งเดิมปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ให้เคลื่อนย้ายกำลังพลขึ้นมายังพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาทันที เนื่องจากสถานการณ์ทางภาคใต้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว
โดยทีมงานจะเข้ามาจัดตั้งครัวอาชีวะ เพื่อประกอบอาหารดูแลประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ สำหรับด้านการจัดการเรียนการสอนในช่วงวิกฤตนี้ ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมแผนรองรับตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา โดยมีทั้งรูปแบบใบงานแบบฝึกหัด (On-hand) และระบบออนไลน์ตามแพลตฟอร์มที่แต่ละโรงเรียนเตรียมไว้
นอกจากนี้ สพฐ. ยังได้จัดเตรียมถุงการเรียนรู้ นำไปแจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนภายในศูนย์พักพิง เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กทุกคนจะยังคงได้รับการส่งเสริมทักษะและไม่ขาดช่วงทางการศึกษาแม้จะอยู่ในภาวะวิกฤต


