ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.88 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจนหลุดแนวรับ 34.90-35.00 บาทต่อดอลลาร์ในวันก่อนหน้า
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงนี้อาจชะลอลงได้บ้าง หลังจากแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา โดยล่าสุดเงินบาทได้กลับมาอยู่ใกล้โซนแนวรับสำคัญ 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ และยังคงเห็นผู้เล่นบางส่วนในตลาด อาทิ ผู้นำเข้า ต่างรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์อยู่บ้าง
นอกจากนี้ หากมองในแง่ของสกุลเงินอื่นๆ จะเห็นได้ว่า เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินบาท สู่ระดับ 23.95 บาทต่อ 100 เยน (ต่ำกว่าแนวรับ 24 บาทต่อ 100 เยนที่เคยประเมินไว้) ทำให้อาจเห็นโฟลวธุรกรรมซื้อเงินเยนจากผู้เล่นในตลาด ซึ่งอาจช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง
สำหรับวันนี้ในฝั่งไทยมองว่าผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนมิถุนายนอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าผลของฐานราคาสินค้าและบริการที่อยู่ในระดับสูงในปีก่อนหน้าอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ CPI ชะลอลงหนักสู่ระดับ 0.04% (+0.4%m/m) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจทรงตัวที่ระดับ 1.50%
ทั้งนี้ หากราคาสินค้าและบริการชะลอลงมากกว่าคาดก็อาจเห็นอัตราเงินเฟ้อ CPI ‘ติดลบ’ ได้เช่นกัน ซึ่งเรามองว่าภาพดังกล่าวเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นหากอ้างอิงท่าที ‘Outlook Dependent’ ของ ธปท. ที่ยังมีความกังวลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นตามภาพเศรษฐกิจ ธนาคารยังคงมุมมองเดิมว่า ธปท. อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ +0.25% สู่ระดับ 2.25% ได้ในการประชุมเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ หากตลาดการเงินไทยยังเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า ธปท. อาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อ เงินบาทก็อาจได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าเพิ่มเติมจากฟันด์โฟลวนักลงทุนต่างชาติที่อาจกลับเข้ามาซื้อทั้งหุ้นและบอนด์ไทยเพิ่มเติม โดยประเมินไว้เบื้องต้นว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อจากฟันด์โฟลวนักลงทุนต่างชาติไหลเข้า ก็อาจมีแนวรับแถว 34.75 บาทต่อดอลลาร์
ด้านทิศทางของเงินดอลลาร์ในช่วงนี้คาดว่าจะอยู่ในรูป Sideway เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐอเมริกาปิดทำการในวันหยุด 4 กรกฎาคม ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างรอปัจจัยใหม่ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ในวันศุกร์