วันนี้ (11 ธันวาคม) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวัน โดยระบุว่าขณะนี้มีการปะทะกันในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ครอบคลุม 13 แนวรบหลัก ได้แก่ ด้านจังหวัดอุบลราชธานี (2 แนวรบ), ศรีสะเกษ (5 แนวรบ), สุรินทร์ (5 แนวรบ) และบุรีรัมย์ (1 แนวรบ)
สำหรับผลการปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญ มีรายละเอียดดังนี้:
ด้านการรุกและยึดพื้นที่: กองกำลังฝ่ายไทยสามารถเข้าทำลายฐานปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามบริเวณ พื้นที่ซำแต (จ.ศรีสะเกษ) ได้สำเร็จ รวมถึงเข้าควบคุมพื้นที่บางส่วนของ ช่องอานม้า (จ.อุบลราชธานี)
ด้านการปะทะและตรึงกำลัง:
- พื้นที่ช่องระยี-ช่องเปรอ (จ.สุรินทร์): เข้ายึดพื้นที่คืนได้ถึงเส้นปฏิบัติการ แต่ยังคงถูกฝ่ายตรงข้ามยิงต่อต้านเป็นระยะ
- พื้นที่คนา (จ.สุรินทร์): ยึดที่หมายได้แล้ว 2 จุด แต่ปัจจุบันกำลังถูกฝ่ายตรงข้ามตีโต้ตอบเพื่อชิงพื้นที่คืน
- พื้นที่ปราสาทตาควาย (จ.สุรินทร์): เป็นจุดที่มีการปะทะรุนแรง ฝ่ายไทยได้ยิงทำลายฐานทหารรอบปราสาทและเนิน 350 แต่ยังไม่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาใช้การต่อต้านอย่างหนัก โดยระดมยิงอาวุธสนับสนุน ใช้โดรนโจมตี และวางกับระเบิดไว้อย่างหนาแน่น
จากการประเมินผลการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 คาดการณ์ความสูญเสียของฝ่ายกัมพูชา ดังนี้:
- กำลังพลเสียชีวิตประมาณ 89 ราย
- รถถัง T-55 ถูกทำลาย 3 คัน (บริเวณพื้นที่พนมประสิทธิโส)
- รถยิงจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ถูกทำลาย 1 คัน
- ระบบโดรนถูกทำลาย 64 ลำ
- ระบบแอนตี้โดรนถูกทำลาย 1 ระบบ (บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย)
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังคงเกาะติดสถานการณ์และตรึงกำลังในทุกแนวรบ เพื่อรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มงวด


