เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยฟื้นตัวหลังจากผลกระทบร้ายแรงจากการระบาดของโควิด ‘การบินไทย’ ก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดเข้าหาโอกาสนี้ด้วยการเตรียมซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างใหม่ 30 ลำ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและฟื้นความแข็งแกร่ง
Bloomberg รายงานคำพูดของ ชาย เอี่ยมศิริ แม่ทัพการบินไทยว่า จะมีการหารืออย่างเป็นทางการกับผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ 2 ราย คือ Airbus และ Boeing เกี่ยวกับการซื้อขนาดใหญ่นี้ โดยหวังว่าจะเริ่มรับเครื่องบินใหม่เหล่านี้ภายในปี 2026
พร้อมกันนี้การบินไทยยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจของ ‘ไทยสมายล์’ จึงกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มเครื่องบิน Airbus A321neo เข้าสู่ฝูงบิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘ไทย’ หมุดหมายแรกที่คนจีนเลือกมาเที่ยว-ลงทุน การบินไทยเดินหน้าอัดโปรโมชันรับคลื่นทุนจีนลูกใหม่กว่า 4 หมื่นล้านบาท
- ลุ้นหุ้น ‘การบินไทย’ กลับเข้าเทรดปลายปี 67 เร็วกว่าแผนเดิม หลัง EBITDA ทะลุ 2 หมื่นล้าน กลางปีนี้เคาะแผนปรับโครงสร้างทุน พลิกส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาบวก
- การบินไทย เล็งออกจากแผนฟื้นฟูเร็วกว่ากำหนด หลังรายได้ปี 65 กลับมาโต 40% กางแผนเช่าเครื่องบินเพิ่มความถี่เส้นทางจีน-ญี่ปุ่น ตั้งเป้าปีนี้โต 40%
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาด ส่งผลให้สายการบินต่างๆ ทั่วโลกขยายฝูงบิน สายการบินหลายแห่งเลือกที่จะเปลี่ยนเครื่องบินรุ่นเก่าที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าด้วยเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมันกว่า
ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ ทำให้สายการบินต่างแข่งขันกันเพื่อรักษาช่องทางการจัดส่งกับผู้ผลิต ซึ่งการบินไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันนี้เช่นกัน เนื่องจากสายการบินต้องการให้จัดส่งได้เร็วที่สุด
การบินไทยอยู่ระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้การกำกับดูแลของศาล ขณะเดียวกันก็มุ่งฟื้นฟูศักยภาพการดำเนินงาน โดยก่อนเกิดโรคระบาดสายการบินมีฝูงบิน 103 ลำ กระนั้นตัวเลขนี้ลดลงเหลือ 65 ลำ เนื่องจากผลกระทบของการระบาดใหญ่
การบินไทยมีแผนเพิ่มศักยภาพของฝูงบินด้วยการเพิ่มคำสั่งซื้อเครื่องบินใหม่และเครื่องบินที่เช่า สายการบินหวังที่จะฟื้นฟูขนาดฝูงบินเป็นมากกว่า 113 ลำ ภายในปี 2027
ปัจจุบันความจุผู้โดยสารของการบินไทยอยู่ระหว่าง 65-70% และเพิ่งประกาศกำไรในไตรมาสแรกกว่า 1.25 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการเที่ยวบินระยะไกลที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากยุโรปและออสเตรเลีย
อ้างอิง: