×

เคาะรายชื่อบอร์ดใหม่ ‘การบินไทย’ ปลดล็อกเงื่อนไขสุดท้าย พาหุ้นกลับเข้าเทรดในเดือน มิ.ย. นี้

27.02.2025
  • LOADING...
thai-airways-new-board

บมจ.การบินไทย ประกาศผลการดำเนินงาน ปี 2567 มีกำไรจากการดำเนินงานกว่า 4 หมื่นล้านบาทในปี 2567 เพิ่มขึ้น 3.2% จาก ปี 2566 แม้งบการเงินจะมีผลการขาดทุนสุทธิ กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท แต่ก็เป็นผลขาดทุนทางบัญชีซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวไม่ได้ส่งผลต่อการออกจากการฟื้นฟูกิจการ

 

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทยหรือ THAI เปิดเผยในงานแถลงข่าว “ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567” ระบุว่า ผลการดำเนินงานในปี 2567 ของบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ 187,989 ล้านบาท เพิ่มจาก 16.7% จากปี 2566 โดยกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน และไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอยู่ที่ 41,515 ล้านบาทในปี 2567 เพิ่มขึ้น 3.2% จาก ปี 2566 

 

“ในปี 2567 มีผู้โดยสารทั้งหมดประมาณ 16 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2566 แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงปีที่ก่อนที่จะมีโควิดระบาด เพราะปัจจุบันเรามีเครื่องบิน 79 ลำ ส่วนในปี 2562 เรามีเครื่องบิน 103 ลำ แต่รายได้ของการบินไทยในปี 2567 ก็ยังสูงกว่าปี 2562 เพราะได้อานิสงส์จากราคาตั๋วโดยสารที่ปรับตัวขึ้นมากเป็นไปตามดีมานด์กับซัพพลาย” ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว

 

สรุปข้อมูลผลการดำเนินงาน ปี 2567 ของ บมจ.การบินไทย

สรุปข้อมูลผลการดำเนินงาน ปี 2567 ของ บมจ.การบินไทย

 

ขณะที่มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (EBIT Margin) ในปี 2567 อยู่ที่ 22.1% ซึ่งดีกว่าประมาณการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ ตามงบการเงินรวมสำหรับปี 2567 การบินไทยมีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 26,901 ล้านบาท เกิดจากผลขาดทุนทางบัญชีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 45,271 ล้านบาท ที่บริษัทฯ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา 

 

โดยผลขาดทุนทางบัญชีส่วนใหญ่ประมาณ 40,582 ล้านบาท เกิดจากการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ที่ราคาตามแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม และส่วนที่เหลือมาจากการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ที่ได้รับการชำระหนี้ที่เร็วกว่ากำหนดที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูฯ 

 

อย่างไรก็ดี รายการดังกล่าวเป็นผลขาดทุนทางบัญชีซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และไม่ได้ส่งผลต่อการออกจากการฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ภายหลังการปรับโครงสร้างทุนยังคงเป็นบวกจากที่เคยติดลบประมาณ 43,000 ล้านบาท มาเป็นบวก 45,589 ล้านบาท

 

บรรยากาศงานแถลงข่าว "ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567 ของ บมจ.การบินไทย

บรรยากาศงานแถลงข่าว “ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567 ของ บมจ.การบินไทย

 

ประกาศนำหุ้น ‘การบินไทย’ พร้อมกลับเข้าเทรดในเดือน มิ.ย.นี้

 

ดร.ปิยสวัสดิ์ ยังย้ำว่า ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถดำเนินการเงื่อนไข 3 หลัก จากทั้ง 4 เงื่อนไข เพื่อให้ดำเนินการออกจากฟื้นฟูฯ ครบแล้ว ดังนี้

  1. จดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างทุน ซึ่ง บมจ.การบินไทย ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565
  1. ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูฯ โดยไม่เกิดเหตุผิดนัดชำระหนี้ โดย บมจ.การบินไทย ยังไม่เกิดเหตุผิดนัดชำระหนี้ นับตั้งแต่วันที่เข้าแผนฟื้นฟูฯ ถึงปัจจุบัน
  1. มี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบิน (EBITDA – Aircraft Lease Payment) ไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาทในรอบ 12 เดือนย้อนหลัง โดยปัจจุบันสามารถทำได้ที่ 41,839 หมื่นล้านบาท รวมทั้งส่วนของผู้ถือหุ้นในงบการเงินเฉพาะกิจการเป็นบวก โดยภายหลังการแปลงหนี้เป็นทุน ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของ บมจ.การบินไทย จากเดิมที่เคยติดลบในสิ้นปี 2566 ที่เดิมเคยติดลบ 43,352 ล้านบาท พลิกมาเป็นบวก 45,495 ล้านบาท

 

เปิด 9 รายชื่อว่าที่บอร์ดชุดใหม่ ‘การบินไทย’

 

โดยขณะนี้เหลือเพียงเงื่อนไขสุดข้อสุดท้าย ข้อที่ 4 เพียงข้อเดียว คือ การแต่งตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) ชุดใหม่ซึ่งคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ จะมีการเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ให้พิจารณาในวันที่ 18 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวน 11-12 คน ซึ่งประกอบด้วยบอร์ดเดิมจำนวน 3 คน คือ

  • ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์
  • ชาญศิลป์ ตรีนุชกร 
  • พลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย 

 

รวมทั้งมีบอร์ดใหม่จำนวน 8-9 คน ที่เตรียมเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาจำนวน 6 คน ได้แก่ 

  • ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

 

ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

 

  • ดร. กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต

 

ดร. กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต
แทรกรูป

 

  • ชาครีย์ บำรุงวงศ์
  • พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร
  • ชาติชาย โรจน์รัตนางกูร 
  •  ชาย เอี่ยมศิริ 

 

อีกทั้งมีกรรมการอิสระจำนวน 3 คน ได้แก่ ณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม, ยรรยง เดชภิรัตนมงคล และสัมฤทธิ์ สำเนียง

 

รายชื่อบอร์ดใหม่ บมจ.การบินไทย

รายชื่อบอร์ดใหม่ บมจ.การบินไทย

 

ทั้งนี้ ภายหลังจากบริษัทฯ ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแล้ว 

เตรียมที่จะยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการในเดือนเมษายนนี้ โดยคาดว่าศาลฯ จะมีคำสั่งในเดือนพฤษภาคมนี้ จากนั้นคาดว่าจะนำหุ้น ของ THAI กลับเข้าไปเทรดอีกครั้งในภายในเดือนมิถุนายนนี้

 

ลด Par Value ปูทางพร้อมกับมาจ่ายปันผล

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมามีมติอนุมัติการลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) ของหุ้นของบริษัทฯ จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1.30 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมทางบัญชีของบริษัทฯ ให้ใกล้เคียงศูนย์มากที่สุด ทำให้ผลขาดทุนสะสมลดลงจากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 104,096 ล้านบาท ลงมาเหลือ 180 ล้านบาท และหากรวมกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะส่งผลให้กำไรสะสมกลับมาเป็นบวก ส่งผลให้ในอนาคตบริษัทฯ จะสามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอนาคตให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงเจ้าหนี้จากการแปลงหนี้เป็นทุนด้วย 

 

ด้านชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ในปี 2568 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมสูงกว่าปี 2567 ที่ทำได้ 187,989 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทฯ จะมีการรับมอบเครื่องบินเข้ามาเพิ่ม 9 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 7 ลำ, แอร์บัส A321 จำนวน 1 ลำ และ แอร์บัส A330-300 จำนวน 1 ลำ โดยจะเริ่มทยอยรับมอบตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/2568 ทำให้สิ้นปี 2568 บริษัทฯ จะมีฝูงบิน 87 ลำ ส่งผลให้ในปีนี้จะมีความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 2% จากปี 2567 ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรวมในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 16.5 ล้านคน จากปี 2567 อยู่ที่ 16 ล้านคน    

 

พร้อมทั้งคาดว่า ในปี 2568 จะสามารถรักษาระดับ EBITDA ไว้ไม่ต่ำกว่าปี 2567 ที่ 41,839 และส่วนรักษาระดับ EBIT Margin ในปีนี้ไม่ให้ต่ำกว่าปี 2567 อยู่ที่ 22.1% จากกลยุทธ์ที่เน้นเพิ่มสัดส่วนการขายตั๋วโดยสารแบบ Network มากขึ้นเป็น 40% ส่วนการขายแบบ Point to Point จะอยู่ที่ 60% สนับสนุนให้มีรายได้จากการขายตั๋วโดยสารเพิ่มสูงขึ้น

      

ขณะที่ในปีนี้ยังมีความเสี่ยงของอุตสาหกรรมการบินในช่วง 2568-2570 ที่เผชิญปัญหาด้านซัพพลาย เนื่องจากยังมีจำนวนเครื่องบินใหม่เข้ามาไม่เพียงพอในการรับรองรับการเติบโตของผู้โดยสารทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบินที่ยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการของอุตสาหกรรมการบินที่กำลังขยายตัว

 

ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย

ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย

 

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ไม่ได้มีความกังวลกับสถานการณ์ภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมการบินที่กำลังเกิดขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบทุกสายการบินทั่วโลกก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน 

 

เดินหน้าทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน-อัตราแลกเปลี่ยน

 

สำหรับปัจจัยต้นทุนน้ำมันซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของบริษัทฯ ในสัดส่วนประมาณ 40% ของต้นทุนทั้งหมด ปัจจุบันยังสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยคณะผู้บริหารแผนได้มีการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันไว้แล้ว รวมทั้งมีการเริ่มทำประกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงลดผลกระทบต่อความผันผวนต่องบการเงินของบริษัทฯ 

 

ชาย กล่าวต่อถึง ประเด็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงไปจากช่วงก่อนโควิด รวมทั้งล่าสุดที่มีกระแสข่าวว่านักท่องเที่ยวชาวจีนยกเลิกเดินทางมาไทยนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีการพึ่งพิงรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่มาก โดยขณะนี้มีสัดส่วนเพียงราว 2-3% ของรายได้รวมลดลงจากในอดีตที่เคยสูงสุดอยู่ที่สัดส่วนไม่เกิน 5% ดังนั้นจึงคาดว่าจะไม่ผลกระทบจากประเด็นนี้

 

ขณะที่ปัจจุบันมีจุดบินในจีนปัจจุบันเหลือจำนวน 5 เมือง มีจำนวน 35 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิมมีจำนวน 8 เมืองและมีจำนวน 70 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทำให้รายได้จากเส้นทางจีนมีสัดส่วนลดลงเหลือ 2-3% โดยหันไปเน้นขยายตลาดอินเดียกับปากีสถานแทนที่มีความต้องการเดินทางที่สูง ซึ่งอินเดียปัจจุบันมีจุดบิน 10 เมือง โดยมีแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมุมไบ จากจำนวน 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น จำนวน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ขณะที่เส้นทางการบินยุโรป และออสเตรเลีย ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้สูงสุด อีกทั้งยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเส้นทางมิวนิก อีกด้วย

                 

จ่อ MOU กับ ‘การบินกรุงเทพ’ ลุยโครงการ MRO ใน EEC

 

ชาย กล่าวต่อถึงความคืบหน้าของแผนการลงทุนโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภา มูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท ในเร็วๆ นี้ บริษัทฯ เตรียมนัดวันเพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เพื่อร่วมศึกษาและร่วมทุนโครงการ MRO นี้ 

 

อย่างไรก็ดีสำหรับสัดส่วนการถือหุ้นร่วมทุน รวมทั้งเงินลงทุนที่จะใช้ลงทุนในโครงการขึ้นกับผลของการเจรจาระหว่างบริษัทฯ กับ BA โดยโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะเปิดให้ผู้ประกอบการไทยที่สนใจยื่นข้อเสนอโครงการ MRO โดยหากบริษัทฯ มีการร่วมทุนกับ BA แล้วได้รับการคัดเลือกจาก EEC ก็คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการ EEC ได้ภายในปีนี้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising