การดำเนินการเพื่อออกจากแผนฟื้นฟูกิจการของ บมจ.การบินไทย หรือ THAI มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนฟื้นฟูฯ ของบริษัทฯ หนึ่งในเงื่อนไขเจ้าหนี้จะต้องมีการแปลงหนี้เป็นทุน
โดยหลังไฟลิ่งมีผลใช้บังคับเปิดให้เจ้าหนี้แสดงเจตนาการใช้สิทธิได้ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ประกอบไปด้วย
– การแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการแบบภาคบังคับเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) จำนวนไม่เกิน 14,862,369,633 หุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 37,828 ล้านบาท
– การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,911,236,813 หุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 12,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion)
– การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,903,608,176 หุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 4,845 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนโดยความสมัครใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ล่าสุดมีเจ้าหนี้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่แปลงหนี้เป็นทุนและเข้ามาถือหุ้นในการ บมจ.การบินไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ได้รับแบบรายงานการได้มา/จำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
- รายงานการได้มา หุ้นของ บมจ.การบินไทย หรือ THAI โดยธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ซึ่งได้มาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จำนวนหุ้นที่ได้มาคิดเป็น 10.35% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยจำนวนหุ้นภายหลังการได้มาคิดเป็น 10.40% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
- รายงานการได้มา หุ้นของ บมจ.การบินไทย หรือ THAI โดยธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 5.73% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งจำนวนหุ้นภายหลังการได้มาคิดเป็น 5.73% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ.การบินไทย หลังแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ