วันนี้ (14 พฤศจิกายน) บมจ.การบินไทย (THAI) ออกเอกสารเผยแพร่โดยระบุว่า ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนทั้ง 3 ฉบับ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) สำหรับเจ้าหนี้ที่เคยลงทะเบียนไว้แล้วไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ระบบจะส่งลิงก์เพื่อเข้าร่วมประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากเจ้าหนี้ไม่สะดวกเข้าร่วมประชุมเจ้าหนี้ในวันและเวลาดังกล่าว สามารถลงมติล่วงหน้าโดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอลงมติล่วงหน้า และส่งไปรษณีย์ไปที่กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี ชั้น 8 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หรือส่งคำร้องขอลงมติล่วงหน้าในแบบฟอร์มไปที่อีเมล [email protected]
กรณีเจ้าหนี้ไม่สะดวกหรือมีข้อขัดข้องในการลงทะเบียนหรือลงมติล่วงหน้าตามวิธีข้างต้น บมจ.การบินไทย (THAI) จัดพื้นที่และเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหนี้ ณ อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงานใหญ่การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต โดยเจ้าหนี้สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมเจ้าหนี้ทุกวันตั้งแต่วันที่ 14-28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00-17.00 น.
โดยหากมีความประสงค์ลงมติล่วงหน้าสามารถดำเนินการได้ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 14-21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00-17.00 น. และวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00-12.00 น.
นอกจากนี้ท่านเจ้าหนี้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการทางโทรศัพท์ของบริษัท โทร. 0 2140 2600 ระหว่างเวลา 09.00-17.00 น. ทุกวัน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันประชุมเจ้าหนี้ในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567
ทั้งนี้ ในการยื่นคำร้องขอลงมติล่วงหน้าเจ้าหนี้ต้องแนบเอกสารยืนยันตัวตน กล่าวคือ กรณีบุคคลธรรมดา ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมขีดปิดทึบข้อมูลศาสนาและกรุ๊ปเลือด รวมทั้งลงนามกำกับ จำนวน 1 ชุด กรณีนิติบุคคล ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ซึ่งลงนามแทนนิติบุคคลดังกล่าวในคำร้องขอลงมติล่วงหน้า รวมถึงลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมขีดปิดทึบข้อมูลศาสนาและกรุ๊ปเลือด รวมทั้งลงนามกำกับ จำนวน 1 ชุด
ก่อนหน้านี้ บมจ.การบินไทย (THAI) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เรื่องมติที่ประชุมเจ้าหนี้เกี่ยวกับการพิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยจำนวน 3 ฉบับ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยบริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าที่ประชุมเจ้าหนี้ของบริษัทที่จัดโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันในสัดส่วน 55.92% ของจำนวนหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนน มีมติให้เลื่อนการประชุมพิจารณาข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ตามคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ออกไปเป็นวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. ดังนี้
- พิจารณาขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ เพื่อกำหนดให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ มีอำนาจลดทุนจดทะเบียนด้วยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) เพื่อล้างผลขาดทุนสะสม
- พิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ เพื่อเพิ่มข้อกำหนดให้ชัดเจนว่าเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ จะได้รับชำระหนี้ก่อนกำหนดเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่าจำนวนเงินปันผลที่จะเสนอจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนั้นๆ
- พิจารณาเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ โดยกระทรวงการคลังเสนอให้พิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มอีกจำนวน 2 คน ได้แก่
1) ปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม
2) พลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง
ด้านแหล่งข่าวเจ้าหนี้ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า การประชุมเจ้าหนี้ของการบินไทยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีกลุ่มเจ้าหนี้หุ้นกู้ที่เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์จำนวนหลายรายที่รวมเสียงข้างมากเสนอให้เลื่อนการประชุมเจ้าหนี้ออกไปก่อน เนื่องจากในแต่ละสหกรณ์มีหลักเกณฑ์ของตัวเองในการพิจารณาเรื่องสำคัญ และมติอนุมัติจากสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์มาก่อน ซึ่งแต่ละสหกรณ์ออมทรัพย์มีสมาชิกผู้ออมเป็นจำนวนมาก และหลายรายเป็นผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ออม หรือผู้ลงทุนในหุ้นกู้ของการบินไทยที่ไม่ทราบว่ามีการประชุมดังกล่าว
โดยเจ้าหนี้ของการบินไทยมีความกังวลโดยเฉพาะประเด็นที่กระทรวงการคลังเสนอขอแต่งตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มอีก 2 คน ซึ่งแจ้งเรื่องมายัง บมจ.การบินไทย (THAI) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิด ส่งผลให้สื่อสารกับเจ้าหนี้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังมีความกังวลว่าหากทั้ง 2 รายชื่อดังกล่าวได้รับเสียงโหวตข้างมากจากเจ้าหนี้ในที่ประชุมดังกล่าว จะส่งผลให้กระทรวงการคลังมีเสียงข้างมากในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มเป็นจำนวน 3 คนจากทั้งหมด 5 คน จากปัจจุบันที่มี 1 คนจากทั้งหมด 3 คน ซึ่งจะมีผลให้กระทรวงการคลังมีอำนาจควบคุมในการบริหารจัดการแผนฟื้นฟูฯ ของการบินไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาจมีผลกระทบสิทธิ์ของเจ้าหนี้ให้เสียเปรียบในอนาคตหรือไม่