วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่ประเทศสวีเดน เวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงนามโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน Gripen E/F ในเฟสแรก จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท ว่า หลังจากการลงนามแล้ว จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะดำเนินการต่อในส่วนของ Main Package ที่จัดซื้อจัดหาเครื่องบิน 4 ลำในล็อตแรก เรื่องของ offset ต่างๆ ที่อยู่ในสัญญาแรก หรือข้อตกลงแรก ซึ่งเราเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว
พล.อ.อ. พันธ์ภักดีกล่าวอีกว่า ถือว่าเกิดประโยชน์ในภาพรวมที่เป็นเรื่องความมั่นคง และส่วนที่ตามมาคือ offset ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเพิ่มเติม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จะดำเนินการไปพร้อมกัน และสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศไปด้วย โดยจะนำไปพัฒนาร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ รวมถึงส่วนของด้านความมั่นคงอื่นๆ ในอนาคต
“คุณสมบัติที่เราเลือก Gripen นั้น ไม่ใช่เครื่องบินที่ใหญ่ รวมถึงเป็นเครื่องยนต์เดียว แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการมีเพิ่มขึ้นมาอีกฝูงหนึ่งที่โคราชจะดูแลความสงบในด้านของภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไปถึงภาคตะวันออกค่อนมาอ่าวไทยด้วย ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง อีกทั้งความเชื่อมั่นว่าฝูงที่ 2 ที่เราได้รับ จะมีประสิทธิภาพมีความสามารถสูงกว่าฝูงที่ 1 ค่อนข้างเยอะ” พล.อ.อ. พันธ์ภักดีกล่าว
พล.อ.อ. พันธ์ภักดียังย้ำด้วยว่า โครงการนี้เริ่มมานานแล้ว ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา และไม่ได้คาดหวังว่าจะไปทำให้ใครมีผลกระทบ แต่เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นมา ก็เป็นจังหวะเหมาะสมที่เราจะต้องปฏิบัติภารกิจของเราให้มีความมั่นใจสูงสุดต่อประชาชน ให้มีความมั่นคง และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน
ส่วนกระแสข่าวสวีเดนไม่พอใจ เรื่องการใช้ Gripen ในการปฏิบัติทางอากาศในเหตุการณ์ปะทะ พล.อ.อ. พันธ์ภักดีระบุว่า ภาพวันนี้ยืนยันว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เป็นความจริง เราทำมาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่เริ่มกระบวนการ และทำอย่างเป็นระบบ การที่กล่าวอ้างว่าจะไม่ขายให้ ทุกคนมีสิทธิ์พูดได้ แต่เราก็มีการพูดคุยกับสวีเดนอยู่ตลอด และตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่จะมีมากขึ้นไปอีก และการจัดซื้อในครั้งนี้ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้นโยบาย ให้เราเอาจริงจังกับเรื่อง offset policy
หลายคนเห็นว่าเราซื้อเครื่องบินสูง 67,000 ล้านบาท แต่มูลค่าทางเครดิตที่กองทัพและประเทศชาติได้รับอาจจะถึงแสนล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง โครงการ Gripen มีความตั้งใจจริงที่จะให้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากภาษีประชาชน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและกลับเข้าสู่ประเทศ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะการร่วมมือกับสวีเดน ซึ่งกองทัพก็มีความร่วมมือมา 17 ปีแล้ว
พล.อ.อ. พันธ์ภักดีระบุด้วยว่า การใช้เครื่องบิน Gripen ไม่มีข้อห้ามใช้เรื่องของการต่อสู้โจมตี เราสามารถใช้ในการปกป้องประเทศได้ และในทุกภารกิจแต่ก็ต้องยึดตามหลักสากลในการใช้กำลังทางอากาศ