หุ้นท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TGE เข้าซื้อ-ขายวันแรกราคาร่วง 4.5% จากราคา IPO เดินหน้านำเงินระดมทุนไปก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 3 แห่ง หวังเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 เติมเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทให้มากกว่า 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570
บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TGE เข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้เป็นวันแรก ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4.4 พันล้านบาท และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี ราคาเปิดการซื้อ-ขายที่ 1.91 บาท ลดลง -0.09 บาท หรือ -4.5% จากราคา IPO ที่ 2 บาทต่อหุ้น
TGE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 3 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 เมกะวัตต์ โดยใช้วัตถุดิบหลักคือ ทะลายปาล์มเปล่า เส้นใยปาล์ม และวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรกรรม ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 3 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 22 เมกะวัตต์
TGE มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1.1 พันล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,600 ล้านหุ้น และหุ้น IPO 600 ล้านหุ้น โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 2 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 1.2 พันล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4.4 พันล้านบาท โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
ดร.ศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจและการลงทุนที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกใหม่ๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทให้มากกว่า 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 รวมทั้งเปิดโอกาสในการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถสร้างการเติบโตและผลกำไรอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 3 แห่งที่อยู่ระหว่างพัฒนา โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปี 2567
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลัง IPO คือครอบครัววนสุวรรณกุล ถือหุ้น 72.7% ขณะเดียวกัน TGE มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล การจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย และภาระผูกพันตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท และขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะการเงิน สภาพคล่องทางการเงิน และความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อบริหารกิจการและการขยายธุรกิจของบริษัท รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP