สหประชาชาติ (UN) เผยว่า Tether (USDT) ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในด้านการดำเนินการที่ผิดกฎหมายและการฟอกเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานล่าสุดจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มกราคม ชี้ให้เห็นว่า Tether หรือที่รู้จักกันในชื่อ USDT กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการหลอกลวงที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงผู้ที่สร้างโปรเจกต์บางอย่างเพื่อหลอกล่อให้เหยื่อไว้วางใจ ก่อนที่จะล่อลวงให้โอนเงินก้อนใหญ่ไปให้
นอกจากนี้ Tether ยังกลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับผู้ฟอกเงินที่ใช้สกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่าเหรียญ USDT โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบล็อกเชน Tron เป็นเครื่องมือสำคัญในการฟอกเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องการไม่เปิดเผยตัวตนในการทำธุรกรรมและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
สิ่งนี้อาจไม่น่าแปลกใจนัก หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Tether ได้ช่วยเหลือกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาในการอายัดเงินประมาณ 225 ล้านดอลลาร์ใน USDT ในกระเป๋าเงิน ที่คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ามนุษย์ระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการหลอกลวงในวงการฆ่าสัตว์
Jeremy Douglas จากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ แสดงความเห็นว่า องค์กรอาชญากรรมพยายามสร้างระบบธนาคารแบบคู่ขนานโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เครือข่ายของคาสิโนออนไลน์ที่ไม่ได้ถูกกำกับดูแล และคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในระบบนิเวศทางอาญาของภูมิภาค
ข้อมูลล่าสุดจาก Dune Analytics ชี้ให้เห็นว่า Tether บล็อกที่อยู่กระเป๋าเงินมากกว่า 1,250 ที่อยู่ ที่มีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยมูลค่ารวมของ USDT ในกระเป๋าเงินที่ถูกแบนเหล่านี้มีมูลค่ามากกว่า 877 ล้านดอลลาร์ แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายปราบปรามสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้างในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ กลุ่มอาชญากรยังคงยอมรับโทเคนของ Tether ในฐานะเครื่องมือเคลื่อนย้ายเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ จนถึงคาสิโนบางแห่งก็เริ่มมีความเชี่ยวชาญในการจัดการโทเคนนี้
ทางด้านบริษัท Tether ได้ตอบสนองต่อ UN ว่ารายงานดังกล่าวเพิกเฉยต่อบทบาทของ USDT ในการช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งถูกระบบการเงินโลกละเลยโดยสิ้นเชิง เพียงเพราะการให้บริการชุมชนดังกล่าวจะไม่ได้ผลกำไรสำหรับพวกเขา Tether ยังแย้งอีกว่า โทเคน USDT ใช้บล็อกเชนสาธารณะ ทำให้สามารถติดตามทุกธุรกรรมได้อย่างพิถีพิถัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
วิวัฒนาการของสกุลเงินดิจิทัลควบคู่ไปกับพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กระตุ้นให้เกิดการฟอกเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทาง Tether ก็เต็มใจที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ในการต่อต้านธุรกรรมคริปโตที่ผิดกฎหมาย รวมถึงกระตุ้นให้ชุมชนคริปโตและ UN ร่วมมือกัน และเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อจัดการกับอาชญากรรมทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
