×

Test & Go กลับมาอีกครั้ง มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

04.02.2022
  • LOADING...
Test & Go กลับมาอีกครั้ง มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

Test & Go หรือการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยยกเว้นการกักตัวกลับมาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจาก ศบค. ระงับการลงทะเบียนไปตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2564 เนื่องจากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน โดยรอบใหม่นี้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ/พื้นที่ แต่ต้องมีการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ผลการตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อ และประกันภัย (ยกเว้นคนไทย) เหมือนเดิม

 

Test & Go เป็นมาตรการเดินทางเข้าประเทศรูปแบบหนึ่ง โดยไม่ต้องกักตัวเหมือนปี 2563 ถึงกลางปี 2564 เมื่อเดินทางมาถึงประเทศจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ (Test) และเมื่อทราบผลว่าไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทาง (Go) ไปยังพื้นที่ใดก็ได้ แต่ ศบค. ยังมีมาตรการควบคุมโรค เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ ซึ่งแบ่งเป็นมาตรการก่อนและระหว่างเดินทาง

 

 

มาตรการก่อนเดินทาง 

  1. ประเทศต้นทาง เดิม ศบค. เคยกำหนดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่กำหนด หรือประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 63 ประเทศ และต้องอาศัยอยู่ในประเทศนั้นอย่างน้อย 21 วัน ซึ่งขณะนั้นยังเป็นการระบาดของสายพันธุ์เดลตาอยู่ แต่รอบใหม่ไม่มีการกำหนดรายชื่อประเทศ นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ/พื้นที่ สามารถเดินทางเข้ามาแบบ Test & Go ได้
  2. การฉีดวัคซีน เหมือนเดิม คือต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยในรายละเอียดจะแบ่งตามกลุ่มอายุและประวัติการติดเชื้อมาก่อน กล่าวคือ ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกำหนด อายุ 12-17 ปี ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ยกเว้นเดินทางมากับผู้ปกครอง อายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีน ส่วนผู้ที่เคยติดเชื้อต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าหายแล้ว
  3. การตรวจหาเชื้อ เหมือนเดิม คือต้องมีผลตรวจ RT-PCR ว่าไม่พบเชื้อภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กต่ำกว่า 6 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครอง
  4. ประกันภัย เหมือนเดิม คือต้องมีประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ยกเว้นคนไทย

 

มาตรการระหว่างเดินทาง

  1. การกักตัว ถึงแม้ Test & Go จะไม่มีการกักตัว แต่เมื่อมาถึงประเทศจะต้องเข้าพักในโรงแรมที่ผ่านมาตรฐาน SHA Extra+ (เดิมเป็นมาตรฐาน SHA+) หรือ AQ (Alternative Quarantine) ในวันแรก และวันที่ 5 เพื่อรอผลตรวจหาเชื้อ โดยระหว่างวันที่ 2-4 สามารถเดินทางไปทั่วประเทศได้ และจองโรงแรมต่างกันได้สำหรับการตรวจครั้งที่ 2
  2. การตรวจหาเชื้อ มีการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งเหมือนเดิม แต่ต่างกันที่รูปแบบการตรวจและระยะเวลาการตรวจ โดยรอบใหม่จะตรวจ RT-PCR ทั้ง 2 ครั้งในวันแรกและวันที่ 5 แต่ถ้าอยู่น้อยกว่า 5 วัน จะไม่ต้องตรวจครั้งที่ 2 ในขณะที่เดิมครั้งแรกจะตรวจ RT-PCR และครั้งที่ 2 เป็น ATK ด้วยตัวเองในวันที่ 6-7 ทำให้ไม่ต้องจองโรงแรมสำหรับการตรวจครั้งที่ 2
  3. การเดินทางในประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ทำให้ระบบ Test & Go น่าสนใจกว่ารูปแบบพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox) ที่จำกัดการเดินทาง/พัก 7 วันในพื้นที่สีฟ้าเท่านั้น แต่ถ้าเกิดการระบาดมากขึ้นหรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ศบค. จะพิจารณารับนักท่องเที่ยวแล้วปรับมาใช้ระบบ Sandbox แทน

 

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ซึ่งควรลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนวันเดินทางจริง หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Test & Go สามารถติดต่อ Call Center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่หมายเลข 0 2572 8442 กรณีพำนักในต่างประเทศ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศที่พำนัก

 

ภาพประกอบ: พุทธิพงศ์ โรจน์ศตพงค์

อ้างอิง:

  • คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-9) เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 ฉบับที่ 17, 19, 20 และ 22 https://www.nsc.go.th/?page_id=6076 
  • สไลด์สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 31 มกราคม 2565 https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/495027768782219 
  • กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ https://consular.mfa.go.th/th/search?query=Test%20and%20Go&stype=news
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising