×

หน้าฉากยืนข้างยูเครน แต่หลังฉาก Tesla ต้องพึ่ง ‘อะลูมิเนียม’ จากรัสเซีย ไฟสงครามทำให้ลูกค้าต้องจ่ายราคารถสูงขึ้น 3-5%

16.03.2022
  • LOADING...
Tesla

“ผมขอท้าวลาดิเมียร์ ปูตินมาสู้กันตัวต่อตัว เดิมพันคือประเทศยูเครน” ข้อความที่ทรงพลังของ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla และ SpaceX เรียกเสียงปรบมือจากผู้คนทั่วโลก จากการประกาศจุดยืนต่อต้านการรุกรานเพื่อนบ้านของกองทัพรัสเซีย ไม่นับก่อนหน้านี้ที่ SpaceX ได้พยายามให้ความช่วยเหลือยูเครนด้วยระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ไปก่อนแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 

แต่จุดยืนของมัสก์อาจไม่ได้หมายถึงจุดยืนของ Tesla ด้วย เพราะบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกนั้นไม่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์กับรัสเซียได้ อย่างน้อยก็ในเวลานี้

 

ตามรายงานจาก CNBC ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า Tesla นั้นสั่งซื้ออะลูมิเนียมจากบริษัท Rusal ซึ่งเป็นของโอเล็ก เดริพาสกา หนึ่งในเครือข่ายมหาเศรษฐีรัสเซีย (Oligarch) ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลเครมลินและถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติในเวลานี้

 

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Rusal เคยถูกคว่ำบาตรจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ก่อนที่การคว่ำบาตรจะถูกยกเลิกไปในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีในปี 2019 ซึ่งหลังจากนั้นในช่วงปลายปี 2020 Tesla ได้เริ่มติดต่อขอซื้ออะลูมิเนียมจาก Rusal เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

 

โดยอะลูมิเนียมจากรัสเซียจะถูกใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ ในการหล่อตัวถังรถยนต์สำหรับรุ่น Tesla Model Y ในโรงงานผลิตรถยนต์ใกล้กับเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และยังใช้สำหรับสายการผลิตใหม่ในโรงงานที่เมืองบรันเดนบูร์กในเยอรมนีเช่นเดียวกันที่ยังไม่เดินสายการผลิตอย่างเต็มกำลัง

 

ทั้งนี้ Rusal ไม่ได้เป็นซัพพลายเออร์เจ้าเดียวหรือเจ้าหลักของ Tesla โดยเจ้าที่เป็นรายใหญ่จริงๆ ที่ผูกปิ่นโตกันคือ Hydro ยักษ์ใหญ่วงการโลหะ ที่เป็นตัวจริงของวงการผลิตโลหะป้อนโรงงานต่างๆ ทั่วยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย บราซิล และกาตาร์ 

 

เพียงแต่หลังจากที่สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตร Rusal และเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัท Tesla เอง เมื่อ ดีพัค อาฮูจา (Deepak Ahuja) อดีตซีเอฟโอ ซึ่งต่อต้านการทำธุรกิจกับรัสเซียได้พ้นจากตำแหน่งไป ซีเอฟโอคนใหม่อย่าง ซาชารี เคิร์กฮอร์น ​(Zachary Kirkhorn) ได้เข้ารับตำแหน่งต่อในเดือนมีนาคม 2019 ก็ได้ติดต่อกับสถาบันที่ปรึกษา Global Counsel Limited ในการประเมินสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ โอกาสเติบโตของตลาด และความเสี่ยงในการทำงานร่วมกับรัสเซีย ก่อนที่จะมีการตกลงซื้ออะลูมิเนียมจาก Rusal ในปลายปี 2020

 

อย่างไรก็ดี การที่ Tesla ยังต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์จากรัสเซียไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 10 แห่งต่างต้องใช้ซัพพลายเออร์จากมหาอำนาจแห่งนี้อย่างน้อย 1 เจ้าเสมอ ตามรายงานจาก Interos บริษัทวิจัยด้านห่วงโซ่อุปทานและการจัดการความเสี่ยงในสหรัฐฯ

 

สิ่งที่น่าจับตามองจริงๆ คือ ท่าทีหลังจากนี้ของบริษัทต่างๆ ว่าพวกเขาจะยังอุดหนุนซัพพลายเออร์จากรัสเซียที่สุดท้ายแล้วจะนำความมั่งคั่งนี้ไปสู่รัฐบาลเครมลิน วลาดิเมียร์ ปูติน และบริวารอีกหรือไม่ หลังจากที่ได้เห็นความโหดเหี้ยมในการบุกยูเครน ทำลายบ้านเมือง และคร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์มากมาย

 

ในความเห็นของ Interos การทำสงครามในยูเครนของรัสเซียนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการรุกรานห่วงโซอุปทานของโลก เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาคือสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และกระเทือนโลกทั้งใบได้เลย

 

โดยนอกเหนือจากการตัดขาดผ่านการคว่ำบาตรแล้ว บริษัทต่างๆ จะทำอีก 2 สิ่งด้วยกัน หนึ่งคือการสั่งซื้อวัตถุดิบมากักตุนให้ได้มากและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนอีกหนึ่งสิ่งคือการพยายามมองหาทางเลือกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการหาแหล่งวัตถุดิบอื่น หรือการหาโลหะชนิดอื่นหรือแร่อื่นที่จะสามารถนำมาใช้เป็นทางเลือกทดแทนได้

 

ในทางกฎหมาย คริสทีน เพอร์เนีย (Kristine Pirnia) จากสำนักงานกฎหมาย Sandler, Travis & Rosenberg มองว่าการที่รัสเซียถูกโลกคว่ำบาตรทุกทางยังทำให้การทำธุรกรรมใดๆ ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนถึงระดับที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ และสิ่งที่บริษัทผลิตรถยนต์ทุกแห่งกำลังกังวลคือการกลัวจะไม่สามารถจัดการธุรกรรมทางการเงินกับรัสเซียได้อีก

 

รถขึ้นราคา 3-5 เปอร์เซ็นต์ เป็นราคาที่ลูกค้า Tesla ต้องจ่ายเพราะไฟสงคราม สงครามในยูเครนผ่านมาได้ 20 วัน แต่ผลกระทบนั้นรุนแรง โดยล่าสุดจากการที่ราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ Tesla แบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหวและไม่มีทางเลือกนอกจากการให้ลูกค้าต้องเป็นผู้รับไป

 

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Tesla เอง เวลานี้ราคารถยนต์บางรุ่นในตลาดสหรัฐฯ และจีนได้เพิ่มขึ้นราว 3-5 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นการขึ้นราคา 2 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในรถรุ่น Model 3 และ Y ในตลาดสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งรถ Model 3 รุ่นต่ำที่สุดเริ่มต้นที่ 46,990 ดอลลาร์สหรัฐ​ หรือราว 1.5 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการขึ้นราคารถในตลาดประเทศจีนในอีก 1 วันถัดมา

 

ขณะที่มูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ของ Tesla เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 มีนาคม) ได้ตกลงมา 1.3 เปอร์เซ็นต์ที่ 756.57 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีกลายถึง 28 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน

 

ภาพ: Patrick Pleul/picture alliance via Getty Images

อ้างอิง: 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X