สำนักข่าว AP รายงานว่า Tesla ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐอเมริกาได้ออกประกาศผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในรุ่นยอดนิยมสองรุ่นด้วยกันคือ Model Y และ Model 3 ในสหรัฐฯ ถือเป็นครั้งที่ 4 ของปี 2023 ที่ Tesla ปรับลดราคารถ EV ของบริษัท ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นยอดขาย หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ กำไรลดลง 24%
รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Tesla มีขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัท และมีขึ้นเพียงไม่นานก่อนที่ Tesla จะเปิดเผยข้อมูลตัวเลขผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของ Tesla ระบุว่าบริษัทได้ปรับลดราคารถรุ่น EV รุ่น Model Y ที่สามารถวิ่งในระยะไกลและสมรรถนะสูง โดยลดราคาลง 3,000 ดอลลาร์ต่อคัน หรือราว 6% และปรับลดราคารุ่น Model 3 ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลังลง 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 5% เหลือ 39,990 ดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจุดประสงค์ที่ Tesla ลดราคารุ่น Model 3 ลง เป็นไปเพื่อให้รถจำนวนมากขึ้นได้รับเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 7,500 ดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งด้วยทางเลือกที่มีอยู่ในเวลานี้ ทำให้ Model 3 บางรุ่นจะเกินขีดจำกัดราคารถยนต์ของรัฐบาลที่ 55,000 ดอลลาร์ในการรับสิทธิ์เครดิตภาษีดังกล่าว
ในส่วนของการลดราคา 3,000 ดอลลาร์สำหรับ Model Y ทำให้รุ่น Dual Motor ที่มีราคาต่ำสุดลดลงเหลือ 46,990 ดอลลาร์ ส่วน Model Long Range อยู่ที่ 49,990 ดอลลาร์ และ Model Y Performance ลดลงเหลือ 53,990 ดอลลาร์ ซึ่ง Model Y ทุกรุ่นมีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษีของสหรัฐฯ อยู่แล้ว เนื่องจากขีดจำกัดราคาสำหรับรถ SUV อยู่ที่ 80,000 ดอลลาร์
ขณะที่รถยนต์รุ่นใหญ่อย่าง S และ X ไม่มีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษี และราคายังคงเท่าเดิมในวันพุธสำหรับทั้งสองรุ่น
ด้าน อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Tesla แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์เกี่ยวกับการปรับลดราคาเมื่อต้นเดือนเมษายนว่า ความต้องการรถยนต์ของบริษัทถูกจำกัดด้วยความสามารถในการจ่ายของผู้บริโภค โดยมัสก์ย้ำชัดว่าความต้องการรถยนต์ EV ของ Tesla มีมากมายในตลาด แต่ถ้าราคาของรถมีมูลค่ามากกว่าเงินที่ผู้คนมี ความต้องการนั้นก็อาจเป็นเพียงแค่ความต้องการ ไม่มีการควักเงินซื้อจริง
นับตั้งแต่ต้นปี 2023 Tesla ได้ปรับลดราคารถ EV Model 3 ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐานในสหรัฐฯ ลง 11% แล้วในปีนี้ และลดราคา Model Y รุ่นพื้นฐานลง 20% เนื่องจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดนั้นได้เตรียมออกมาตรฐานที่เข้มงวดซึ่งจะจำกัดการให้เครดิตภาษีสำหรับรถ EV
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมบางรายมองว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในตลาดอาจมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง เนื่องจากมีคู่แข่งหลายรายเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งการปรับลดราคาของ Tesla บ่งชี้ถึงความตั้งใจของ Tesla ในการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่ง
นอกจากนี้การปรับลดราคาในสหรัฐฯ สอดคล้องกับราคารถยนต์ Tesla ในต่างประเทศที่มีการประกาศปรับลดราคารถยนต์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น ในยุโรป อิสราเอล และสิงคโปร์ รวมทั้งในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ โดย Tesla ประเดิมการปรับลดราคารถยนต์ EV ที่จีนในเดือนมกราคมเพื่อกระตุ้นอุปสงค์
ขณะเดียวกัน Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/23 มีกำไรต่อหุ้น 85 เซนต์ และมีรายได้รวม 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ประเมินรายได้ไตรมาสแรกไว้ที่ 2.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 2.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หุ้นเหมืองขุดแรร์เอิร์ธดิ่งหนัก หลัง Tesla ออกมาประกาศว่าจะยุติใช้แร่ชนิดนี้ในการผลิตรถ EV โมเดลใหม่
- อีลอน มัสก์ กลับมาเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลกอีกครั้ง หลังหุ้น Tesla พุ่งเกือบ 70% ในปีนี้
- Tesla บุกมาปักหมุดไทย สะเทือนเป้าหมาย ‘ตายทั้งตลาด’!!
อ้างอิง: