หลังจาก Tesla ได้ปักหมุดหมายเริ่มต้นการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อย และถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Model 3 และ Model Y
ก่อนหน้านี้ Tesla บอกว่าจะเปิดให้บริการ Supercharger (ซูเปอร์ชาร์จเจอร์) แห่งแรกของในไตรมาส 1 พร้อมเปิดอีก 10 แห่งภายในปี 2566 เพื่อให้ผู้ขับ Tesla สามารถเข้าถึงสถานี Supercharging ได้ครอบคลุมมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Tesla มาที่ประเทศไทยแล้ว! เคาะราคาขาย Model Y เริ่ม 1.959 ล้านบาท และ Model 3 เริ่ม 1.759 ล้านบาท เปิดให้จองวันนี้ได้เลย!
- รู้จัก BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชื่อนี้ ที่ Tesla อยากได้ และกำลังจะเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นครั้งที่ 3
- ‘ไม่มีความเป็นผู้นำ-อีโก้สูง-ไล่ใครก็ได้ออกตามอำเภอใจ’ เสียงสะท้อนของพนักงาน Tesla ถึง ‘อีลอน มัสก์’
ล่าสุดเริ่มมีความเคลื่อนไหวจาก Tesla ประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ในรูปแบบการเป็นเจ้าของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Supercharger
โดยสถานีชาร์จ Supercharging จะได้รับการดูแลจาก Tesla ทั้งในแง่ของการติดตั้งจากผู้เชี่ยวชาญ และไม่มีค่าบำรุงรักษาหรือมีความยุ่งยากอื่นๆ ตามมา และรถ Tesla จะมีระบบนำทางให้ผู้ขับเดินทางไปยังสถานีที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับเงื่อนไขและคุณสมบัติในการเป็นพาร์ตเนอร์ ประกอบด้วย
- พื้นที่ติดตั้งสถานีชาร์จจะต้องรองรับการจอดรถได้ 8 จุดขึ้นไป
- บริเวณพื้นที่รอบๆ ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้องน้ำ ร้านอาหาร และ Wi-Fi
- การคัดเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการขยายตลาด และอยู่ตามเส้นทางยอดนิยม
ขณะที่ฝั่งรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ BYD บุกตลาดหนักไม่แพ้กัน
ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายแบรนด์ BYD แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ EV ในไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาครัฐเองก็เดินหน้านโยบายสนับสนุนและส่งเสริมการใช้รถ EV อย่างชัดเจน
ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ จึงมุ่งหาพันธมิตรที่มีความเข้าใจด้าน EV Charger มีความเข้าใจพฤติกรรมการชาร์จรถ EV และมีบริการแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง และสามารถเชื่อมระบบเข้ากับแอปพลิเคชันของ Rêver Automotive ได้
ล่าสุดจึงได้จับมือกับ SHARGE ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์รายเดียวในไทยของ เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้จัดจำหน่ายแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า BYD เดินหน้าติดตั้ง EV Charger ให้ลูกค้ารถ BYD ถึงบ้านทุกคัน
พร้อมกับกระจายจุดชาร์จทุกโชว์รูมกว่า 1,000 จุด ทั่วประเทศ
โดยได้วางแผนเชื่อมระบบแอป SHARGE เข้ากับแอปพลิเคชัน Rêver Automotive เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถ BYD และตั้งเป้ายอดผู้ใช้แอปทะลุ 20,000 ราย หลังส่งมอบรถ BYD ATTO 3 ครบในไตรมาส 1 ปี 2566
อ้างอิง: