Tesla ถูกฟ้องร้องโดยลูกค้าที่ระบุว่า ยักษ์รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มระยะการขับขี่ที่โฆษณาเกินจริง ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่ารถยนต์ของพวกเขาสามารถเดินทางได้ไกลแค่ไหนด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว
คดีฟ้องร้องที่ Northern District of California กำลังเรียกร้องค่าชดเชยในรูปแบบของความเสียหายทางการเงินที่ไม่เปิดเผย นอกจากนี้ โจทก์กำลังเรียกร้องให้มีคำสั่งศาลเพื่อป้องกันไม่ให้ Tesla ดำเนินการต่อในสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็น ‘โฆษณาเท็จ’ เกี่ยวกับระยะการขับขี่โดยประมาณของรถรุ่นต่างๆ
โจทก์อ้างว่า Tesla เข้าใจถึงความสำคัญของระยะการขับขี่สำหรับลูกค้า ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ด้วยการโฆษณายานพาหนะของตนว่า สามารถครอบคลุมระยะทางที่ไกลกว่าระยะทางจริงอย่างมีนัยสำคัญ โจทก์โต้แย้งว่านี่เป็นกลยุทธ์โดยเจตนาเพื่อเพิ่มยอดขาย
หากลูกค้าทราบเกี่ยวกับระยะการขับขี่จริงของรถยนต์ Tesla โจทก์อ้างว่าพวกเขาอาจเลือกที่จะไม่ซื้อ หรือจ่ายเงินน้อยลงสำหรับรถยนต์ดังกล่าว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Tesla เผชิญกับข้อกล่าวหาดังกล่าว เมื่อต้นปีที่ผ่านมาหน่วยงานกำกับดูแลของเกาหลีใต้ได้ปรับเงินบริษัท Tesla จำนวน 2.2 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากแสดงข้อมูลระยะทางขับขี่ของยานพาหนะในทางที่ผิดในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
คดีดังกล่าวได้รับแรงผลักดันเพิ่มเติมจากการสอบสวนล่าสุดของ Reuters ที่เผยว่า พนักงานของ Tesla ได้รับคำสั่งให้ห้ามลูกค้าที่บ่นเกี่ยวกับระยะการขับขี่ที่ไม่ดี ไม่ให้นำรถเข้ารับบริการ โดยถึงขั้นตั้งทีมขึ้นมาเพื่อยกเลิกคำขอนัดหมายของลูกค้าที่มุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบแบตเตอรี่
นอกจากนี้ รายงานของ Reuters ระบุว่า อัลกอริทึมของ Tesla มักจะแสดงค่าประมาณของระยะการขับขี่ในแง่ดี จนกระทั่งระดับพลังงานแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 50% นอกเหนือจากระดับนี้ การอ่านค่าจะแม่นยำมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างของประสิทธิภาพที่คาดการณ์ไว้ และประสิทธิภาพของยานพาหนะจริง
ซึ่งในคดีดังกล่าวได้ฟ้องว่า Elon Musk ซึ่งเป็นซีอีโอของ Tesla เป็นคนสั่งให้ใช้อัลกอริทึมดังกล่าวด้วยตัวเอง
แม้จะมีปัญหาทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ยังคงถือว่า Tesla เป็นผู้ผลิตรถยนต์สำหรับผู้บริโภคอันดับต้นๆ ในแง่ของระยะการขับขี่ EV ในทุกรุ่น จากข้อมูลของ Car and Driver รถยนต์ของ Tesla จำนวน 4 รุ่น ติดอันดับ 1 ใน 10 รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางไกลที่สุดในปี 2023 โดยไม่มีแบรนด์ที่ติดมากกว่า 1 รุ่นในทำเนียบเลย
อ้างอิง:
