ในช่วงเดือนเมษายนนี้ นับว่าเป็นช่วงเวลาการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2024 ของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งทั่วโลก ทีมงาน THE STANDARD WEALTH ได้รวบรวมงบของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ประกาศออกมาแล้วให้ได้ติดตามกันว่าจะรุ่งหรือร่วงกันแน่
ในฝั่งของ SK hynix บริษัทผลิตชิปแบบความจำ (Memory Chip) เบอร์ 2 ของโลก ซึ่งเป็นคู่ค้าของ NVIDIA รายงานรายได้อยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 114% กำไรอยู่ที่ราว 1.39 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) ตามกระแส AI ที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีแผนขยายโรงงานได้ในปีนี้เพิ่มอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ กำไรที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ถือเป็นการพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งของ hynix หลังจากขาดทุนสุทธิมาต่อเนื่อง 5 ไตรมาสติดต่อกัน และเพื่อรองรับความต้องการในฝั่งเทคโนโลยี AI บริษัทมีแผนจะสร้างโรงงานใหม่ในเกาหลีใต้เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน ปี 2025 ใช้เงินลงทุนราว 20 ล้านล้านวอน
ส่วน Meta (เดิมคือ Facebook) ได้ประกาศรายได้ของไตรมาส 1 ว่าทำได้ราว 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.30 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนหน้า (YoY) และทำกำไรได้ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.50 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นราว 117% จากปีก่อนหน้า
แต่ทั้งนี้ รายได้ของ Meta ก็ยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และมีการเพิ่มเงินลงทุนใน AI (Artificial Intelligence) มากกว่าที่ตลาดคาดว่ามีโอกาสแตะ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ – 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท – 1.4 ล้านล้านบาท) จึงทำให้ราคาหุ้นถูกเทขายลงไปกว่า 15%
ในวันเดียวกัน (24 เมษายน) Tesla ประกาศรายได้ออกมาที่ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.7 แสนล้านบาท) น้อยลงกว่าปีก่อน 9% (YoY) ในขณะที่กำไรอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) คิดเป็นการปรับตัวลง 55% จากปีก่อนหน้า จากแนวโน้มการแข่งขันของตลาด EV ที่เข้มข้นขึ้น จึงต้องมีการลดราคา
ในขณะที่ Alphabet (Google) ที่แม้จะกำลังเผชิญกับความปั่นป่วนภายในบริษัทจากการประท้วงของพนักงานจนมีการไล่ออกไป 28 คน และการแข่งขันทางด้าน AI ที่ดุเดือดขึ้น จะประกาศงบภายในวันศุกร์นี้ (26 เมษายน) โดยนักวิเคราะห์ก็ประเมินว่า รายได้ของ Alphabet มีโอกาสปรับตัวขึ้นมาราว 13% ในไตรมาส 1 นี้
นักวิเคราะห์ประเมินว่า รายได้ของ Microsoft มีโอกาสปรับตัวขึ้น 15% ในไตรมาส 1 นี้ ก่อนที่จะชะลอตัวลงกว่านี้ในอีก 3 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่ง Microsoft เองก็มีการลงทุนในด้าน AI อย่างต่อเนื่องอีกหลายพันล้านดอลลาร์ทั้งใน Anthropic, Mistral, Figure และ Humane ในขณะที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นราว 6.8% นับจากต้นปี ดันมูลค่าบริษัทแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้า Apple ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งจะประกาศงบในวันศุกร์ที่ 26 เมษายนนี้
อ้างอิง: