สราวุฒิ อยู่วิทยา แม่ทัพของกลุ่มธุรกิจ TCP พาสื่อมวลชนทัวร์ Legacy Museum แหล่งเรียนรู้ตำนานเครื่องดื่มพลังงานแห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมเผยทิศทางธุรกิจท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ ต้นทุน และการแข่งขันอันดุเดือด ที่คอยกดดันทำให้ไม่โตเท่าที่ควร แถมยังบอกว่า ที่เคยวาดฝันรายได้ 9 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีให้ลืมตัวเลขนั้นไปก่อน
“ในไตรมาสแรกของปี TCP มีการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวอยู่ที่ราว 4% ก่อนหน้านี้เราได้ขึ้นราคาสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังบางรายการมาเป็น 12 บาท ขณะที่คู่แข่งก็มาเน้นขาย 10 บาท บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจและต้นทุนที่ปรับตัวขึ้นยังกดดันอยู่ ทำให้เราไม่ได้โตเท่าที่ควรจะเป็น” สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าว
ต้องยอมรับว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งรายใหญ่ที่มีอยู่เดิมและผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่กระโดดเข้ามาในตลาด ทำให้จริงๆ หลายคนเข้าใจผิดว่าตลาดนี้กำไรดี
ทว่าความเป็นจริงทุกเจ้าต่างอยู่ในโหมด ‘เหนื่อย’ กันหมด เพราะการจะขายราคา 10 บาทได้นั้นต้องแบกรับต้นทุนสูง-กำไรน้อย และถ้าจะไปลดคุณภาพสินค้าก็ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม ดังนั้นการแข่งขันที่ถูกต้องในมุมมองของสราวุฒิคือ ‘การสร้างแบรนด์มากกว่าลดราคา’
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ปัจจุบันกระทิงแดงถือส่วนแบ่งตลาดในไทยอยู่ 17% ส่วนคู่แข่งก็อยู่เท่าเดิม สะท้อนให้เห็นว่า การเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้แบรนด์ใหญ่ๆ ไปเพิ่มน้ำหนักส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
เช่นเดียวกับ TCP ปัจจุบันสัดส่วนการผลิตในไทย 39% ส่งออกไปต่างประเทศ 61% จากนี้มีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยตลาดที่เป็นเรือธงหลักๆ คือ ‘เวียดนาม’ ซึ่งกำลังมาแรงมาก แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่ก็ไม่ได้แข่งกันเรื่องราคาเหมือนกับประเทศไทย
จุดนี้ทำให้กระทิงแดงที่บุกเวียดนามภายใต้แบรนด์ ‘เรดบูล’ สามารถถือส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% และยังมีมองเห็นโอกาสในช่องทางใหม่ๆ ซึ่งจะตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในเวียดนามที่นิยมดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
ถึงกระนั้นกว่าแบรนด์กระทิงแดง (เรดบลู) จะเป็นที่รู้จักในต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนำเข้าไปขายใน 5 ปีแรกขายได้น้อยมาก แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนเป็นที่รู้จักในตลาด แน่นอนว่าการที่ TCP มีฐานเรดบลูในต่างประเทศ จะช่วยปูทางให้สินค้าเครื่องดื่มอื่นๆ ในพอร์ตเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศได้
จากนี้เป้าหมายระยะยาวสราวุฒิมองว่าต้องการผลักดันเครื่องดื่มสปอนเซอร์ให้ไปเป็น Global Brand ให้ได้ เพราะถึงอย่างไรตลาดก็โต เพราะผู้คนต้องการพลังงาน แต่ต้องใช้เวลาศึกษาตลาดอยู่มากพอสมควร
ขณะที่ตลาดในประเทศการขายของ TCP เรียกว่ากัดฟันให้ถึงที่สุด โดยในตอนนี้ไม่ได้คาดหวังเรื่องการโกยกำไร แต่ก็ต้องไม่ขาดทุน พยายามบริหารจัดการต้นทุนให้ได้ประสิทธิภาพ เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาคอร์สต้นทุนเพิ่ม 10% หนักพอสมควร
โดยเฉพาะต้นทุนที่มาจากน้ำตาล ราคาน้ำตาลในตลาดโลกสูงที่สุดในประวัติศาสตร์เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศ บางประเทศงดส่งออก ซึ่งปีนี้ก็ยังเจอความท้าทายอยู่เหมือนกัน รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท แน่นอนว่าเป็นต้นทุน แต่สำหรับบริษัทใหญ่ที่มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในกระบวนการผลิต ทำให้จำนวนพนักงานไม่ได้เพิ่มขึ้น ตัว TCP เองจึงยังบริหารจัดการได้
ด้านแผนการลงทุนใหม่ๆ ยังไม่มีในระยะอันใกล้ แต่บริษัทสนใจเรื่องเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยทำงานในองค์กร ควบคู่กับเดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มทางเลือกให้ฐานลูกค้า
ในปีนี้วางแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่สองรายการ ซึ่งยังเป็นแบรนด์เดิมที่ยังแข็งแรงอยู่ ด้วยการสร้างแบรนด์ภายใต้ชื่อใหม่ อาจยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม บางครั้งไม่จำเป็นต้องทำ เพราะใช้งบสูงมากและอาจไม่ประสบความสำเร็จ
หัวเรือใหญ่กลุ่มธุรกิจ TCP ยังได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยบวกลบซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เริ่มจากสถานการณ์โลก ถ้าไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองหรือสงคราม เศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ ดีขึ้นแน่นอน และส่งออกก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ในไทยสิ่งที่รัฐบาลพยายามผลักดันนโยบายต่างๆ ช่วยดึงดูดนักลงทุนและแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็จะทำให้ประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น
“ดังนั้นแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจากนี้จะเติบโตมากหรือน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ อีกด้านหนึ่งตลาดจะได้อานิสงส์จากอากาศร้อน และหากมีเงินดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามาก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับกลุ่มเครื่องดื่มได้เป็นอย่างมาก ในปี 2567 เราวางเป้าหมายการเติบโตดับเบิลดิจิต 10% เป็นการตั้งใจตั้งเป้าหมายให้ชาเลนจ์อยู่แล้ว” สราวุฒิ อยู่วิทยา แม่ทัพของกลุ่มธุรกิจ TCP ย้ำ
พร้อมกันนี้ ในโอกาสย่างเข้าสู่วันครบรอบ 69 ปีของ TCP จึงเปิดตัว Legacy Museum แหล่งเรียนรู้ตำนานเครื่องดื่มกระทิงแดงแห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี นับเป็นความตั้งใจที่ เฉลียว อยู่วิทยา ได้วางรากฐานไว้ เพื่อเปิดให้เป็นแหล่งความรู้เพื่อสร้างเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในสังคม ซึ่งภายในได้จัดแสดงแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ประกอบด้วย 7 โซนด้วยกัน