สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เผยผลการพิจารณาอนุญาตรวมธุรกิจบางจาก-เอสโซ่ เป็นประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงและผู้บริโภค แต่ต้องดำเนินการภายใต้ 6 เงื่อนไข
สมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า พิจารณาคำขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าคำนึงถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามมาตรา 52 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 แล้ว
เห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจ และเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตาก้าวต่อไป ‘บางจาก’ หลังผู้ถือหุ้น 99% ไฟเขียวดีลซื้อ ‘เอสโซ่’ ลุยปรับโฉมโลโก้ปั๊มใหม่ทั่วประเทศ
- บางจากลั่น ดีลซื้อ ESSO มูลค่า 5.55 หมื่นล้าน ไร้แผนเพิ่มทุน เหตุมีวงเงินกู้แบงก์พร้อมกว่า 6 หมื่นล้าน
อย่างไรก็ตาม การรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมทั้งห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างตลาดในตลาดโรงกลั่นน้ำมัน ตลาดการค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่างๆ และตลาดการค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการ จึงมีผลทำให้การกระจุกตัวของตลาดเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ถึงระดับที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง จึงเห็นควรอนุญาตให้รวมธุรกิจโดยกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขประกอบการอนุญาตให้รวมธุรกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 (15) ประกอบมาตรา 51 วรรคสอง และมาตรา 52 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จึงมีคำสั่งอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
- ห้ามมิให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานภาครัฐเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เว้นแต่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
- ให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดซื้อน้ำมันดิบจากคู่ค้ารายใดรายหนึ่งไม่เกินกว่าร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันดิบจากรายใดรายหนึ่งมากเกินไป ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความมั่นคงทางพลังงาน เว้นแต่เป็นการจัดซื้อน้ำมันดิบจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลการจัดซื้อน้ำมันดิบของปีที่ผ่านมาต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ภายในไตรมาสแรกของปีถัดไป
- ให้บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างลูกค้าในตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ได้ทำไว้กับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลง ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้าในตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรายนั้นด้วย
- ให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO ที่ได้ทำไว้กับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลง ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO รายนั้นด้วย
กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบจากการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สามารถใช้เป็นเหตุผลในการบอกเลิกสัญญาได้ โดยต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ
จัดทำแผนพัฒนานวัตกรรมธุรกิจพลังงานสีเขียว
- ให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดทำแผนการพัฒนานวัตกรรม ด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจพลังงานสีเขียว โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา และต้องมีงบประมาณในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมพลังงานสีเขียวและการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อรักษาระดับการพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม อันเป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันด้านนวัตกรรมและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค พร้อมทั้งจัดทำแนวทางปฏิบัติ กรอบเวลาดำเนินการ ตัวชี้วัด และให้ปฏิบัติตามแผนการดังกล่าว โดยให้จัดทำแผนการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ และรายงานผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมาต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายในไตรมาสแรกของปีถัดไป
- ให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดทำแผนการส่งผ่านประโยชน์ที่ได้รับจากการรวมธุรกิจไปสู่ผู้บริโภคและสังคม โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อเป็นหลักประกันการส่งผ่านประโยชน์ไปยังผู้บริโภคและสังคม ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ด้วย พร้อมทั้งจัดทำแนวทางปฏิบัติ กรอบเวลาดำเนินการ ตัวชี้วัด และให้ปฏิบัติตามแผนการดังกล่าว โดยให้จัดทำแผนการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ และรายงานผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมาต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายในไตรมาสแรกของปีถัดไป
ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตรวมธุรกิจปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขประกอบการอนุญาตรวมธุรกิจข้างต้นนับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ และให้มีหนังสือรายงานผลการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จด้วย และในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งได้รับแจ้งคำสั่งของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง