‘1 ดอลลาร์ของเทย์ฯ หลังชนะคดียื่นฟ้องดีเจลวนลาม’ ต้นแบบการยืนหยัดเพื่อสิทธิเสรีภาพของตัวเอง

หลังผ่านพ้นช่วงเวลา 4 ปีอันแสนเลวร้าย ในที่สุดนักร้องสาวเพลงป๊อปวัย 27 ปี ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift)’ ก็ได้รับความยุติธรรมเสียที

โดยเมื่อช่วงดึกของวันที่ 14 ส.ค. 2560 ตามเวลาสหรัฐอเมริกา คณะลูกขุนและผู้พิพากษาศาลประจำเมืองเดนเวอร์ ในรัฐโคโลราโด ได้มีคำสั่งตัดสินให้เธอเป็นฝ่ายชนะในคดีที่ยื่นฟ้อง ‘เดวิด มูลเลอร์ (David Mueller)’ อดีตดีเจสถานีวิทยุ KYGO-FM 98.5 วัย 55 ปี จำเลยในข้อหาลวนลามและคุกคามทางเพศ

การพิจารณาคดีในครั้งนี้กินระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมงเต็ม โดยศาลประจำเมืองเดนเวอร์ได้ตัดสินว่า อดีตดีเจจอมฉาวกระทำผิดจริง และจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับสวิฟต์ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ฝั่งนักร้องสาวชื่อดังได้เรียกร้องในเชิงสัญลักษณ์ให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการไม่เพิกเฉยต่อการถูกคุกคามทางเพศมากกว่าจะหวังเอาเงินชนะคดีจำนวนมหาศาล

Photo: a katz/shutterstock

ให้เคสตัวเองเป็นตัวอย่าง – เตรียมเดินหน้าสนับสนุนองค์กรช่วยเหลือผู้ถูกคุกคามทางเพศต่อไป

มีรายงานว่าหลังจากที่ทีมผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย สวิฟต์ก็โผกอดกับคุณแม่ของเธอทันที ก่อนที่ต่อมาซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อปจะปล่อยแถลงการณ์ส่วนตัวของเธอออกมา โดยในแถลงการณ์ดังกล่าวมีใจความดังนี้
“ฉันอยากจะขอบคุณผู้พิพากษา วิลเลียม เจ. มาร์ติเนซ (William J. Martinez) และคณะลูกขุนสำหรับการพิจารณาคดีในครั้งนี้อย่างรอบคอบ ขอบคุณทีมทนายของฉัน ดัลด์ลาส บัลดริจ (Douglas Baldridge), แดเนียล โฟลีย์ (Danielle Foley), เจย์ เชาว์ดีส์ (Jay Schaudies) และเคที ไรต์ (Katie Wright) สำหรับการต่อสู้เพื่อฉันและเพื่อใครอีกหลายคนที่ถูกคุกคามทางเพศแต่ไม่สามารถปริปากพูดอะไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันอยากขอบคุณใครก็ตามที่สนับสนุนฉันตลอด 4 ปีแห่งความเจ็บปวด และกว่า 2 ปีของกระบวนการพิจารณาคดี

“ฉันทราบถึงสิทธิพิเศษที่ได้รับจากชีวิตของฉันเอง สังคม และความสามารถในการแบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการปกป้องตัวเองด้วยกระบวนการยุติธรรมเช่นนี้ ความหวังของฉันคือการช่วยให้เสียงของพวกเขาเหล่านั้น (ผู้ถูกคุกคามทางเพศ) ดังขึ้นและได้รับการรับฟัง ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ฉันจะบริจาคเงินให้องค์กรที่ช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกคุกคามทางเพศ เพื่อให้พวกเขาและเธอสามารถปกป้องตัวเองได้”

Photo: Jeff Kandyba

ความเจ็บปวดและฝันร้ายที่กินเวลานานกว่า 4 ปีเต็ม

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2013 เดวิด มูลเลอร์ ดีเจจากสถานีวิทยุ KYGO-FM 98.5 (ในช่วงเวลานั้น) ถูกกล่าวหาว่าไปลวนลาม เทย์เลอร์ สวิฟต์ ด้วยการใช้มือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อสัมผัสบั้นท้ายของนักร้องคนดังในงานมีตแอนด์กรี๊ด ก่อนที่คอนเสิร์ต ‘The Red Tour’ จะเริ่มต้นขึ้นที่ Pepsi Center โดยทันทีที่งานดังกล่าวจบลง สวิฟต์ก็ได้เข้าไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอให้แม่และทีมงานของเธอฟัง

ก่อนที่ 2 วันหลังจากนั้น จำเลยจอมฉาวจะถูกสั่งปลดจากการทำหน้าที่ดีเจสถานีวิทยุ KYGO หลังถูกสอบสวนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่ามูลเลอร์ออกมาปฏิเสธว่าตนไม่ได้กระทำอนาจารใดๆ นักร้องสาวคนดังทั้งสิ้น พร้อมขู่จะฟ้องร้องสวิฟต์และผู้บริหารสถานีวิทยุ KYGO กลับ ข้อหาที่ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง

Photo: ADRIAN SANCHEZ-GONZALEZ/AFP

จนในปี 2015 มูลเลอร์ก็ยื่นเรื่องฟ้องเทย์เลอร์ สวิฟต์, แอนเดรีย สวิฟต์ (Andrea Swift) มารดาของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงทีมงานบางส่วนของสถานีวิทยุเป็นมูลค่า 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 99.7 ล้านบาท ในข้อหาที่ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยการกดดันทีมงาน KYGO-FM จนทำให้ตกงานและพลาดเงินรายได้จากสัญญามูลค่า 150,000 เหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 5 ล้านบาท)

ฝั่งสวิฟต์ก็ไม่ได้นิ่งดูดายแต่อย่างใด เพื่อปกป้องสิทธิและชื่อเสียงของตัวเอง เธอจึงยื่นฟ้องมูลเลอร์กลับในข้อหากระทำอนาจารและคุกคามทางเพศเธอด้วยการสัมผัสที่บั้นท้าย

โดยต่อหน้าการพิจารณาคดีของศาล แกเบรียล แม็กฟาร์แลนด์ (Gabriel McFarland) ทนายความส่วนตัวของมูลเลอร์ได้กล่าวยืนยันว่า อดีตดีเจ KYGO จะไม่ยอมแลกงานที่เป็นเหมือน ‘ความฝัน’ ของตัวเองด้วยการไปสัมผัสบั้นท้ายใต้กระโปรงของหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ระดับโลก พร้อมทั้งย้ำนักย้ำหนาว่า ลูกความของตนให้ความเคารพในสุภาพสตรีและปฏิบัติกับพวกเธอด้วยความเหมาะสมเป็นอย่างดี

“เขาไม่ได้ไปยุ่งกับกระโปรงของเธอแม้แต่นิดเดียว เสื้อผ้าของเธอก็ยังดูสมบูรณ์แบบเหมือนที่มันเป็น” แม็กฟาร์แลนด์กล่าว

Photo: SUZANNE CORDEIRO/AFP

ส่วนฝั่งสวิฟต์ก็ยืนยันหนักแน่นพร้อมโต้กลับว่า เธอถูกมูลเลอร์ใช้มือสัมผัสที่บั้นท้ายใต้กระโปรงเป็นเวลานาน นั่นจึงทำให้เธอมั่นใจได้ว่าอดีตดีเจจอมฉาวมีเจตนาจะลวนลามเธอด้วยความตั้งใจจริงๆ
เธอบอกว่า “นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับฉัน ฉันต้องรู้สิว่าเขาเป็นคนทำ (มูลเลอร์) ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้คุณหรือลูกความของคุณมาทำให้ฉันรู้สึกผิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความผิดของฉันหรอกนะ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของฉันไงล่ะ ฉันถูกก่นด่าอย่างหนักจากเหตุการณ์ความโชคร้ายในชีวิตครั้งนี้ ทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นผลจากการตัดสินใจของเขา ไม่ใช่ฉัน”

Photo: TMZ

1 ดอลลาร์ที่แสนมีค่า แลกกับการบอกผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ให้ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิตนเอง

อย่างไรก็ดี ภาพที่สำนักข่าวบันเทิง TMZ ได้เปิดเผยก็กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ได้ว่าสวิฟต์ถูกดีเจคนดังกล่าวลวนลามจริง เนื่องจากในรูปภาพดังกล่าวที่มีบุคคลจำนวน 3 คนประกอบไปด้วย เทย์เลอร์ สวิฟต์, เดวิด มูลเลอร์และแชนนอน เมอร์เชอร์ (Shannon Mercher) แฟนสาวของเขา ซึ่งมือของมูลเลอร์ได้ปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับบริเวณบั้นท้ายของเธอจริง หาใช่ช่วงเอวอย่างที่มันควรจะเป็น

สเตฟานี ซิมเบ็ก (Stephanie Simbeck) ช่างภาพประจำงานดังกล่าวได้ขึ้นเป็นพยานให้การต่อศาลพร้อมยืนยันว่า มูลเลอร์ลวนลามสวิฟต์จริง โดยตอนแรกเธอเข้าใจผิดว่านักร้องสาวพยายามจะโพสต์ท่าถ่ายรูปตลกๆ เท่านั้น “ตอนถ่ายรูป ฉันเห็นว่าสวิฟต์ดูจะล้มตัวไปยังฝั่งผู้หญิง (แชนนอน เมอร์เชอร์) สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก”

และเมื่อแม็กฟาร์แลนด์ถามสเตฟานีว่า เธอเห็นหรือเปล่าว่ามูลเลอร์ลวนลามสวิฟต์จริง เธอก็ตอกกลับว่า “ฉันเห็นสิ มือของเขาอยู่บนบั้นท้ายของสวิฟต์เลยล่ะ”

ขณะที่เกร็ก เดนต์ (Greg Dent) หนึ่งในทีมบอดี้การ์ดของซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อปก็ร่วมเป็นพยานให้การต่อศาลพร้อมยืนยันว่า เขาเห็นมูลเลอร์ลวนลามนักร้องสาวจริงเช่นกัน

Photo: flickr.com

และสุดท้าย จากหลักฐานรอบข้างและประจักษ์พยานที่ปรากฏออกมา ผู้พิพากษาวิลเลียม เจ. มาร์ติเนซ ก็ได้ยกฟ้องคดีที่มูลเลอร์ยื่นฟ้องสวิฟต์เมื่อวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม ก่อนตัดสินว่ามูลเลอร์เป็นผู้กระทำผิดจริงในคดีลวนลามและกระทำการอนาจารต่อสวิฟต์ ที่ฝั่งนักร้องสาวเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเขาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
หลังจากการตัดสินคดีดังกล่าวเสร็จสิ้น ดัลด์ลาส บัลดริจ หนึ่งในทีมทนายความของสวิฟต์ก็ได้ออกมากล่าวยกย่องเธอว่าเป็นผู้ที่ยืนหยัดเพื่อผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างแท้จริง

บัลดริจกล่าวว่า “จำนวนเงิน 1 ดอลลาร์ที่เธอชนะคดีในครั้งนี้มีค่ามากมาย มันเป็นการบอกผู้หญิงหลายๆ คนให้รู้ว่า พวกเธอควรจะตัดสินใจอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ บางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ กับการที่คนดังอย่างสวิฟต์ลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อปกป้องตัวเองและไม่ยินยอมต่อการถูกคุกคาม”

ไม่ว่าจะผ่านไปอีก 10 ปี หรือ 20 ปี หรือต่อให้การรณรงค์จะดำเนินไปอย่างเข้มงวดแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดก็คงไม่มีใครทราบได้แน่ชัดอยู่ดีว่ากรณีการกระทำความผิดด้วยการคุกคามทางเพศจะลดจำนวนน้อยลงหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพของตัวเองดังที่สวิฟต์เลือกในครั้งนี้ ก็น่าจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เหยื่อผู้ถูกคุกคามทางเพศหรือใครหลายคนกล้าลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตัวเองมากขึ้น

Cover Photo: ROBYN BECK/AFP

อ้างอิง: