ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก เทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จด้วยรางวัลแกรมมี่ 11 รางวัล และผู้ฟังกว่า 55.5 ล้านคนต่อเดือนบน Spotify ทั้งยังมีความสำเร็จอีกมากมายนอกเหนือจากนี้ที่ยังไม่ได้พูดถึง
แต่ในสุนทรพจน์วันรับปริญญากิตติมศักดิ์ สาขา Fine Arts จาก New York University (NYU) เธอบอกกับบัณฑิตทุกคนว่า ผลงานทั้งหลายของเธอ แท้จริงแล้วเป็นผลลัพธ์มาจาก ‘การถูกปฏิเสธ’
“เวลาที่ฉันถูกปฏิเสธว่า ‘ไม่’ หรือไม่ได้ถูกนับรวม ไม่ได้ถูกเลือก ไม่ได้ชนะ เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันรู้สึกว่าช่วงเวลาเหล่านั้นสำคัญกว่าตอนที่มีคนบอกฉันว่า ‘ได้’ เสียอีก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Taylor Swift รับปริญญากิตติมศักดิ์ สาขา Fine Arts จากมหาวิทยาลัย NYU!
- เป็น ‘มนุษย์เป็ด’ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร! เปิดข้อดีของการทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่สุดสักอย่าง
- เป็นแค่ ‘คนธรรมดา’ ไม่ได้เหรอ? คำถามที่เกิดขึ้นมาในวันที่สังคมถามหาแต่ ‘ความสำเร็จ’
ไม่ว่าจะในชีวิตส่วนตัวหรือหน้าที่การงานของเธอ การถูกปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว ด้วยความที่เธอเริ่มเดินทางเข้าอุตสาหกรรมดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อยมาก ในตอนเด็กเธอจะรู้สึกเศร้าเมื่อเธอไม่ถูกเชิญไปรวมกลุ่มค้างคืนที่บ้านเพื่อน มิหนำซ้ำเธอยังถูกปฏิเสธจากค่ายเพลงในวัย 13 ปี ด้วยประโยค “มีแต่แม่บ้านวัยกลางคนเท่านั้นแหละที่จะฟังเพลงคันทรีแบบนี้”
การถูกปฏิเสธนั้นเจ็บปวดก็จริง แต่เธอก็จัดการความรู้สึกตัวเองจากการโดนปฏิเสธด้วยการอยู่คนเดียวในห้อง เขียนเพลงขึ้นมา การเขียนเพลงทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปยังอีกโลกหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้เทย์เลอร์ประสบความสำเร็จได้ก็คือ เธอไม่จมอยู่กับความเศร้าของการโดนปฏิเสธ เธอยังคงเชื่อมั่นในตัวเองและลงมือทำในสิ่งที่เธอชอบต่อไป และสุดท้ายสิ่งที่เธอทำก็ผลิดอกออกผล เมื่อเธอได้เซ็นสัญญาใบแรกตอนอายุ 13 ปี และมีอัลบั้มแรกเป็นของตัวเองตอนอายุ 16 ปีเท่านั้น ในเวลาต่อมาอัลบั้ม Fearless ของเธอก็กวาดรางวัลแกรมมี่ไปถึง 4 รางวัลในปี 2010
เทย์เลอร์ยังบอกอีกว่า “ประสบการณ์ที่ฉันได้เรียนรู้คือความผิดพลาดของฉันจะนำทางไปสู่สิ่งดีๆ ในชีวิตของฉันเสมอ” อย่างที่เธอเล่ามาว่าเธอเคยโดนปฏิเสธด้วยถ้อยคำโหดร้ายเพียงใด แต่เธอก็กลับมายืนหยัดสู้ใหม่ได้
“รู้สึกอับอายเวลาที่ทำผิดพลาดงั้นเหรอ มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์แค่นั้นเอง ก็แค่ลุกขึ้นให้เร็ว จัดการความรู้สึกให้ได้ แล้วเงยหน้าขึ้นมองดูว่าใครยังคงอยู่กับเราในตอนนี้ ใครที่พร้อมจะหัวเราะให้กับความผิดพลาดครั้งนั้น นั่นแหละคือของขวัญที่เราจะได้รับ” เทย์เลอร์กล่าว
หากวันนี้ถูกปฏิเสธก็ไม่เป็นไร ที่ตรงนั้นอาจไม่ใช่ที่ของเรา แต่สักวันหนึ่งเราจะเจอที่ที่เราสามารถเป็นตัวเองได้อย่างมีความสุขแน่นอน
ภาพ: Dia Dipasupil / Getty Images
อ้างอิง: