เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้สอนบทเรียนที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ ‘ความฉลาดทางอารมณ์’ ผ่านประโยคสั้นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประสบการณ์อารมณ์ที่รุนแรงที่เธอเผชิญก่อนที่จะได้รับความสำเร็จล่าสุด และวิธีที่เธอจัดการกับมัน
เรื่องนี้เกี่ยวกับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ความฉลาดทางอารมณ์ และคำพูดที่ทรงพลัง ซึ่งทำให้ทุกอย่างเข้าใจได้ง่าย
นิตยสาร TIME ได้เลือกสวิฟต์เป็นบุคคลแห่งปี 2023 แม้ว่าอาจเป็นทางเลือกที่แหวกแนว (และขอบอกตามตรงว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ถ้าคุณต้องการขายนิตยสารหรือให้คนอื่นคลิกเรื่องราวของคุณและกล่าวถึงคุณ)
แต่ก็สามารถเห็นความเหมาะสมได้จากสิ่งที่เธอทำสำเร็จในปีที่ผ่านมา และอิทธิพลที่เธอมี:
- การทัวร์คอนเสิร์ตที่คาดการณ์ว่ามีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท
- ภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำสัญญาอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งนำไปสู่วันที่ทำรายได้สูงสุดของโรงภาพยนตร์
- ‘อิทธิพลของเทย์เลอร์’ (Taylor Effect) ที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา (“เมื่อธนาคารกลางเอ่ยชื่อคุณว่าเป็นเหตุผลที่เศรษฐกิจเติบโต นั่นคือเรื่องใหญ่” อาจารย์ด้านการเงินบอกกับ TIME)
ในบทสัมภาษณ์และเรื่องราวที่ตามมาประมาณ 7,000 คำที่ TIME นำเสนอ มีเรื่องราวสั้นๆ และคำพูดที่น่าจดจำจากสวิฟต์ ซึ่งทำให้เกิดความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน มันเกี่ยวกับความเครียดที่รุนแรง ซึ่งสวิฟต์เผชิญก่อนที่เธอจะประสบความสำเร็จล่าสุด และวิธีที่เธอจัดการกับมัน
ประการแรก เกี่ยวกับเพลงของ คานเย เวสต์ ซึ่งมีเนื้อหาไม่สุภาพเกี่ยวกับสวิฟต์ ซึ่งสวิฟต์และเวสต์ตกอยู่ในความขัดแย้งเรื่องเพลงนี้ และสวิฟต์กลายเป็นฝ่ายแพ้อย่างไม่น่าเชื่อ ดังที่สวิฟต์กล่าวไว้ว่าเธอถูก “ตัดขาดจากสังคมจนเกือบถึงขีดจำกัดของชีวิตและความมั่นคงทางจิตใจ”
ประการที่สอง เกี่ยวข้องกับ สกูตเตอร์ บราวน์ โปรดิวเซอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในคนสุดท้ายที่สวิฟต์อยากให้ครอบครองเพลงของเธอ แต่กลับสามารถเป็นเจ้าของบทเพลงมาสเตอร์ของเธอได้ ตามคำอธิบายของสวิฟต์ “งานที่ฉันทุ่มเทมาทั้งชีวิตถูกพรากไปโดยคนที่เกลียดฉัน”
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้สวิฟต์ตัดสินใจที่จะบันทึกเพลงทั้งหมดที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักใหม่ พร้อมกับเทคนิค และติดป้าย ‘Taylor’s Version’ ในแต่ละเพลง นั่นทำให้เธอประสบความสำเร็จในปีนี้ ซึ่งสุดท้ายนำไปสู่การที่เธอได้รับการยกย่องเป็นบุคคลแห่งปี และเป็นผู้ที่พูดคำพูดที่เป็นการสื่อสารทางอารมณ์ที่ชาญฉลาดที่สุด
“ฉันได้เรียนรู้สิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือเรื่องร้าย การตอบกลับของฉันคือการสร้างสรรค์งานด้านศิลปะต่อไป และฉันก็ได้เรียนรู้อีกว่า การพยายามเอาชนะคู่แข่งหรือศัตรูนั้นไม่มีประโยชน์ ในที่สุดพวกเขาก็จะพ่ายแพ้ด้วยตัวเองทุกครั้ง” สวิฟต์กล่าว
ทำงานต่อไป ไม่สนใจผู้เกลียดชัง ในขณะเดียวกัน ถ้อยคำเหล่านั้นอาจเป็นการแสดงออกที่รุนแรง ท้าทาย แต่ในที่สุดก็เป็นการยอมรับความฉลาดทางอารมณ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่ผู้เขียนบทความในเว็บไซต์ inc เคยอ่าน
ไม่มีเหตุผลที่ต้องสนใจ เพราะพวกเขาจะไม่สำคัญ และในความเป็นจริง การกระทำจะกำหนดว่าพวกเขาจะได้รับผลลัพธ์ในที่สุด แม้ว่ามันอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป แต่การยอมรับความเชื่อนั้นจะทำให้คุณสามารถทิ้งอารมณ์ไว้ข้างหลัง และมุ่งเน้นไปที่งานของคุณได้
อ้างอิง:
