วันนี้ (5 พฤษภาคม) ที่อาคารประชารักษ์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม ทัศไนย์ ตั้งคง อายุ 41 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายประกบยิงในพื้นที่อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีอาการสาหัส ต้องใส่ท่อระบายเลือดจากช่องเยื่อหุ้มปอด หายใจไม่สะดวก ใส่ท่อช่วยหายใจ
ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดผู้บาดเจ็บ พร้อมได้เยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ขณะเข้าเก็บกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐาน คดียิงยายพิการตาบอดถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ ไอร์ซือเระ ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต จำนวน 1 ราย และได้บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บ พักรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย
- ด.ต. สาธิต คำแหง อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลจากสะเก็ดบริเวณศีรษะมีบาดแผล
- ส.ต.ท. ธีปกรณ์ ชูสิงห์ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดที่น่องข้างขวา
- ด.ต. ธีรวัฒน์ จอดนอก อายุ 41 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีแผลบริเวณเหนือคิ้วข้างซ้าย
- จ.ส.ต. สาคร รัตนศิริ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บ แน่นหน้าอก หูอื้อ
พ.ต.อ. ทวี ได้พูดคุยสอบถามอาการและให้กำลังใจกับผู้บาดเจ็บพร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมปลอบขวัญแก่ญาติและครอบครัว ซึ่งทั้ง 4 นาย อาการโดยรวมรู้สึกตัวดี อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม เด็กหญิงนัซมีย์ ศรีมารักษ์ ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดด้านหลังสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา อาการปลอดภัย
พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีความรุนแรงกว่าอดีตมาก เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตแล้ว 13 ราย การแก้ปัญหาที่ต้องเร่งทำโดยด่วนขณะนี้ คือการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ
เบื้องต้นจากที่ได้รับฟังรายงานจากหน่วยงานความมั่นคง สิ่งที่จะมาดูแลป้องกันประชาชนจากนี้ คือ เพิ่มบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้ง กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส. พร้อมดึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และพี่น้องประชาชนมาช่วยการดูแลในหมู่บ้าน และเพิ่มมาตรการด้านการสืบสวน ด้านการข่าว
เมื่อเกิดเหตุต้องมีข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ในส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่พร้อมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หมู่บ้านชุมชนต้องเป็นพื้นที่ของรัฐ ไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รัฐต้องลงไปดูและนำปัญหาข้อทุกข์ร้อนของหมู่บ้านชุมชนมาแก้ไข
สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยกลุ่มเปราะบาง ก็ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนแนวทางกับหน่วยงานทหารและตำรวจไปแล้วซึ่งทุกหน่วยได้ทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญตอนนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับประชาชน และการดูแลเยียวยาทางจิตใจ ก็ได้ให้นักสิทธิและนักจิตวิทยาได้ลงพื้นที่ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว
นอกจากนี้ต้องให้ผู้นำศาสนาเข้าไปสร้างความเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องทางศาสนา เพื่อไม่ให้เกิดการบิดเบือนสร้างความแตกแยก ทั้งนี้ ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ หน้าที่ของรัฐบาล คือการนำสันติสุขและสันติภาพกลับคืนมาสู่ประชาชน