วันนี้ (3 มีนาคม) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเอกสารหลุด รายชื่อผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ได้รับเลือก สว. ประมาณ 1,200 ราย เป็นบุคคลที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเรียกสอบปากคำในฐานะพยานในคดีฮั้วเลือก สว. ว่า เอกสารดังกล่าวไม่ได้หลุดจากดีเอสไอ แต่ได้สอบถามไปว่าในวันที่มีการเลือก สว. ที่เมืองทองธานี มีสว. ที่ผ่านการคัดเลือกรอบระดับประเทศ ประมาณ 3,000 ราย ทราบว่ามีโพยและรายชื่อประมาณ 1,000 คน ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลชุดนี้มากกว่า
ส่วนของดีเอสไอก็จะตรวจสอบรายชื่อที่เข้ามา และอาจมีมากกว่าประมาณ 1,200 คน ซึ่งการที่มีรายชื่อไม่ได้ยืนยันว่าทำผิดหรือไม่ แต่ตามหลักการของดีเอสไอ จะพยายามเรียกทุกคนที่รู้เห็นมาให้ข้อมูล
ส่วนจะเป็นข้อมูลใหม่หรือไม่ ต้องไปถามพนักงานสอบสวน แต่ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเมืองทองธานี ก็ต้องมาให้ข้อมูล แต่ขอให้มีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ก่อน เพราะยังไม่มั่นใจว่าเป็นคดีพิเศษหรือไม่
เมื่อถามว่ามีแนวโน้มที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ในสำนวนมีมากและเข้มข้นกว่านี้
ส่วนที่ทาง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีข้อเสนอแนะว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบในเรื่องดังกล่าวนั้น พ.ต.อ. ทวีกล่าวว่า ก็จะนำมาพิจารณา แต่ในวันนั้นท่านไม่ได้พูดแบบนี้ ท่านพูดหลักการว่าไม่อยากให้ไปแทรกแซงองค์กรอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิก็ตอบแล้วว่าอันนี้เป็นคนละส่วน ซึ่งเราก็ต้องยึดกฎหมาย ก็ไม่มีประเด็น โดยความเป็นจริงแล้วท่านก็มีความเห็นที่ดีหลายความเห็น ก็ให้ดีเอสไอไปดูให้ละเอียด เพราะในความผิดอาญา หรืออื่นๆ มันเข้าข่ายความผิดของดีเอสไออยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่าการทำงานจะไม่มีปัญหา
ส่วนที่ สว. ยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวี และ พ.ต.อ. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ จะทำให้การทำงานมีปัญหาหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา ในระบบประชาธิปไตยหากรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีการใช้สิทธิ์ได้ พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่คนที่ยื่นคำร้อง หากดูเอกสารที่เป็นตัวเลข หรือในโพยอาจเป็นตัวเลขที่ตรงกัน ซึ่งในเอกสารที่ปรากฏจำนวน 140 คน คือมีสว. 138 คนที่อยู่ในสภา ซึ่งมีชื่อที่ปรากฏอยู่ในโพย และมีอีกประมาณ 62 คนที่ไม่ปรากฏ
เมื่อถามว่า ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ไม่ใช่หลักฐานที่ชัดเจน แต่เป็นหลักฐานที่ได้มาในแต่ละแห่ง มายื่นให้ พร้อมย้ำว่าในการประชุม กคพ. จะได้ข้อสรุปว่าจะรับหรือไม่เป็นคดีพิเศษ และเรื่องต้องจบ