วันนี้ (15 มิถุนายน) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดำเนินการไต่สวนนัดแรก กรณีความปรากฏการบังคับโทษจำคุกของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการถูกส่งตัวออกรักษานอกเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยศาลฎีกาฯ ได้ไต่สวนพยาน 1 ปาก คือ มานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (คนปัจจุบัน) พร้อมได้มีหมายเรียกไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 20 ปาก
พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า โดยหลักการพวกเราสังคมต้องเคารพศาล โดยเฉพาะตอนนี้ศาลค้นหาความจริงเป็นระบบไต่สวน ก็อย่างน้อยที่สุดศาลได้ส่งปรัชญาที่ดีว่า ศาลจะรับฟังพยาน เช่น ศาลได้มีการเรียกไต่สวนถึง 20 คนในส่วนของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แสดงว่าศาลต้องการที่จะค้นหาความจริง ซึ่งเราก็จะไม่ไปก้าวล่วง ขอให้ทุกคนเคารพ โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรม เราต้องเคารพในการดำเนินการ ไม่อาจจะไปวิจารณ์อะไรได้
สำหรับกรณีที่ มานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ถูกไต่สวนกรณีที่เรือนจำฯ ส่งตัวทักษิณ ชินวัตร ออกรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ โดยที่ไม่ผ่านทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในขณะที่กรณีอื่นต้องผ่านทัณฑสถานโรงพยาบาลก่อนนั้น พ.ต.อ. ทวี แจงว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร แต่มานพ ก็เหมือนตน เป็นพยานบอกเล่า ศาลก็คงจะฟังประจักษ์พยาน ซึ่งประจักษ์พยานก็ต้องเป็นผู้บัญชาการเรือนจำคนที่แล้ว
แต่ในฐานะที่เคยเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรือนจำทั้งหมดภายในประเทศประเทศไทย เราไม่มีโรงพยาบาล โดยเฉพาะเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีข้อตกลงกับโรงพยาบาลตำรวจไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่การส่งตัวออกไปยังโรงพยาบาลก็มีกฎหมายมีระเบียบ มีกฎกระทรวงรองรับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเพิ่มเติมอยากรอให้ศาลไต่สวนประจักษ์พยานก่อน เพราะนายมานพ เป็นผู้บัญชาการเรือนจำที่เพิ่งย้ายมาใหม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งคำถามถึงกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 โดยเฉพาะกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 180 วัน ในห้วงตอนนั้น มีผู้ต้องขังเจ็บป่วยรายใดอีกอื่นหรือไม่ และพวกเขาเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร พ.ต.อ. ทวี แจงว่า อันนี้สื่อจะถามเองใช่หรือไม่ เพราะไม่มีใครสงสัยตรงนี้ ตนขอให้ศาลได้ไต่สวนก่อน เพราะเรื่องพวกนี้ได้มีการอภิปรายได้มีการพูดคุยไปแล้ว และเรื่องที่ปรากฏก็เป็นเรื่องที่อยู่ในกรรมาธิการอยู่แล้ว เราก็ได้ชี้แจงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเรือนจำจะมีแนวทางการดำเนินการตามระเบียบ โดยเฉพาะทุกเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ มีโรงพยาบาลเครือข่าย และโรงพยาบาลที่ทำข้อตกลง ซึ่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้มีการทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลตำรวจเพียงอย่างเดียว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นเรื่องไม่ผิดปกติอะไรใช่หรือไม่ที่เรือนจำฯ จะส่งตัวผู้ต้องขังป่วยออกรักษาตัวนอกเรือนจำที่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ผ่านทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น พ.ต.อ. ทวี ระบุว่า รอให้ศาลท่านพิจารณาก่อน ส่วนรายละเอียดก็ขอให้ศาลได้ไต่สวนก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากตัดเรื่องการป่วยวิกฤตหรือไม่วิกฤติออกไปก่อน แต่เรือนจำฯ ได้ดำเนินการเช่นนั้นเพราะเป็นมาตรการดูแลรักษาพยาบาลความปลอดภัยต่อสุขภาพและร่างกายของผู้ต้องขัง เพราะหากเกิดอันตรายขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ราชทัณฑ์หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ใช่หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี ระบุว่า ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญปี 2560 ขึ้นมา เขาบอกว่าเราต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมาย อย่างกฎหมายไทยเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร ก็มีการปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว