วันนี้ (29 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมในช่วงนี้ โดยย้อนถามสื่อว่ากฎหมายว่าอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่ากฎหมายทุกฉบับเพื่อปวงชนชาวไทย และปวงชนชาวไทยคือคนทั้งประเทศ ได้รับสิทธิเสรีภาพทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญกำหนด และกฎหมายลูกก็เขียนไว้ว่าอะไรที่สามารถทำได้หรือไม่ได้ มีผลกระทบต่อบุคคลอื่นหรือไม่ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่ ทั้งเรื่องการจราจรและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอให้พิจารณาตรงนี้ด้วย
ส่วนที่สังคมตั้งคำถามเรื่องการใช้ความเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าวันนี้ได้มีการดำเนินคดีแล้ว ขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการสลายม็อบทะลุฟ้าเมื่อวานนี้ สาเหตุเพราะนายกรัฐมนตรีต้องการจะถ่ายรูปรวมคณะรัฐมนตรีหน้าตึกไทยคู่ฟ้าในวันอังคารที่ 30 มีนาคมใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ ถามกลับอย่างมีอารมณ์ว่าคิดอย่างนั้นได้อย่างไร ตนไม่เข้าใจวิธีการคิดแบบนี้ แต่คิดแบบนี้ไม่ได้ กลุ่มผู้ชุมนุมอยากทำอะไรก็ทำไป ที่ผ่านมาอดทนมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่วันนี้มีปัญหา มีผลกระทบต่อการจราจร มีโรงเรียนร้องเรียนเข้ามา และใน พ.ร.บ. การชุมนุมก็ระบุกฎหมายชัดเจนว่าจะต้องห่างจากสถานที่ราชการเท่าไร และต้องดูกฎหมายอื่นประกอบด้วย หากตนเองไม่ทำคนอื่นก็เดือดร้อน
พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่าประชาชนคนไทยทุกคนก็ต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นเพียงการขอคืนพื้นที่ และได้มีการเตือนไปหลายครั้งแล้ว จึงขอให้เข้าใจด้วยว่าเป็นคนละเรื่องกันกับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรี
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจัดกิจกรรม ‘ใส่ชุดไทยไถสเก็ต’ ของ วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้าว่ามีการบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินและ พ.ร.บ. ควบคุมโรคหรือไม่ หรือเป็นเพราะเป็น ส.ส. จึงได้รับอภิสิทธิ์ พล.อ. ประยุทธ์ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า “จะรับไปพิจารณาให้”