ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เรามักจะได้เห็นข่าวธนาคารระดับโลกหลายแห่งประกาศปรับลดจำนวนพนักงานเซ่นพิษเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แม้บางแห่งจะไม่มีแผนเลิกจ้างแต่ก็ไม่มีแผนที่จะเปิดรับพนักงานใหม่เพิ่มเช่นกัน อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าขณะนี้ธนาคารขนาดใหญ่ในวอลล์สตรีทและยุโรปหลายแห่ง เช่น Deutsche Bank, Citigroup, HSBC และ JPMorgan Chase กำลังเตรียมที่จะทำสิ่งที่สวนทางกันคือจ้างงานเพิ่มนั่นเอง
สาเหตุที่ธนาคารยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต้องทบทวนนโยบายการจ้างงานของตัวเองใหม่ เป็นเพราะพวกเขาต้องการฉวยโอกาสในการคว้าตัวบรรดานายแบงก์มากฝีมือจากธนาคาร Credit Suisse ที่ประสบปัญหาจนถูกหน่วยงานกำกับบีบให้ต้องขายกิจการให้กับคู่แข่งร่วมชาติอย่าง UBS นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการควบรวมกิจการจากสององค์กรในอุตสาหกรรมเดียวกัน คงไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ล่าสุด Bloomberg ได้รายงานว่า ขณะนี้มีธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งที่จ้องจะดึงตัววาณิชธนากรและผู้จัดการความมั่งคั่งระดับมือฉมังจาก Credit Suisse มาทำงานให้ตัวเอง และเริ่มส่ง Headhunter หรือบริษัทช่วยสรรหาผู้บริหาร บินไปตามเมืองใหญ่ๆ เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน และซูริก เพื่อเจรจาต่อรองกับคนของ Credit Suisse บ้างแล้ว
“มีวาณิชธนากรเก่งๆ มากมายที่ Credit Suisse และพวกเขาตระหนักว่า UBS มีธุรกิจด้านที่ปรึกษาการลงทุนที่เล็กกว่า ทำให้คนเหล่านี้เริ่มมองหาโอกาสในการทำงานใหม่ๆ” Michael Nelson ผู้บริหารของบริษัทจัดหางานชื่อดังในนิวยอร์กอย่าง Quest Group ระบุ
แหล่งข่าวของ Bloomberg ระบุว่า Deutsche Bank มีแผนที่จะดึงผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายหนี้จาก Credit Suisse เข้ามาอยู่ด้วย หลังจาก UBS ส่งสัญญาณว่าต้องการจะลดขนาดของธุรกิจประเภทนี้ลงในอนาคต
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 มีนาคม) Colm Kelleher ประธานใหญ่ของ UBS กล่าวในงานแถลงข่าวว่า แม้ว่าการควบรวมจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจให้กับธนาคาร แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเช่นกันคือการปรับลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากปัจจุบันทั้ง UBS และ Credit Suisse มีการทำธุรกิจที่ทับซ้อนกัน และทั้งสองแห่งมีการจ้างงานรวมกันถึงเกือบ 125,000 ตำแหน่ง
โดยก่อนหน้าที่ทางการสวิตเซอร์แลนด์จะเข้ามาผลักดันให้เกิดการควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์นี้ Credit Suisse ได้มีแผนจะปรับลดพนักงานของตัวเองอยู่แล้วราว 9,000 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 50,000 ตำแหน่ง เพื่อลดต้นทุน
แหล่งข่าวของ Bloomberg ยังระบุอีกว่า UBS น่าจะใช้ยุทธวิธีจิ้มเป็นรายบุคคลว่าอยากให้ผู้บริหารคนใดบ้างของ Credit Suisse ทำหน้าที่ต่อไปหลังการควบรวม แต่ความไม่แน่นอนดังกล่าวก็ทำให้คนมีฝีมือจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ไม่ต้องการอยู่วัดดวง และเลือกที่จะย้ายข้ามค่ายไปอยู่กับคู่แข่งรายอื่นๆ แทน
อ้างอิง: