วันนี้ (22 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงข้อเสนอให้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขอายุความคดีตากใบ โดยระบุว่า เรื่องความเป็นไปได้นั้นกำลังให้ฝ่ายกฎหมายศึกษา ซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ภูมิธรรมยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจออกหมายตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการสืบค้น ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคงของรัฐไทย ไม่ใช่ความมั่นคงของรัฐบาล ฉะนั้นต้องระมัดระวัง ซึ่งรัฐบาลก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สร้างปัญหาและกระทบกระเทือนกับความมั่นคงของรัฐไทย กระบวนการนี้มีหลายเรื่อง ซึ่งควรจะดูในรายละเอียด ไม่ว่านักวิชาการหรือใคร ผมคิดว่าทุกคนหวังดี แต่อยากให้ดูให้ถ่องแท้ เราไม่ได้ปฏิเสธญาติซึ่งเป็นผู้เสียหาย หากจะพูดเรื่องนี้จริงๆ ต้องดูแต่ต้นว่ามีกระบวนการอย่างไร และรัฐบาลในอดีตก็ทำมาโดยตลอดในทุกเรื่อง” ภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรมยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง ส่วนกระบวนการทางกฎหมายก็ขึ้นศาลไปแล้วถึง 4 คดี บางคดีผู้ถูกกล่าวหาเป็นประชาชนคนหนุ่มสาว นายกรัฐมนตรีในยุคสมัยหนึ่งก็ได้ประกาศยกเลิกคดี เพื่อหวังให้เกิดความสามัคคี แต่ความรุนแรงกลับไม่ลด จึงต้องดูให้ถ่องแท้ว่าความรุนแรงเกิดจากกรณีอะไร ซึ่งกรณีนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง และส่วนตัวมองว่าปัญหาเรื่องตากใบมีความสลับซับซ้อน ต้องค่อยๆ ดูรายละเอียด
“ที่ผ่านมารัฐบาลใช้เงินกว่า 600 ล้านบาทในการเยียวยาอย่างเต็มที่กับผู้เสียหาย ผมย้ำว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าใช้ประเด็นนี้มาอ้างว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย วันนี้สังคมไทยที่จังหวัดภาคใต้เป็นสังคมพหุนิยม เราอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข” ภูมิธรรมระบุ
ทวียังหวังเกิดปาฏิหาริย์ตามตัวผู้ต้องหาได้
ด้าน พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีตากใบ โดยระบุว่า เรื่องนี้ฝ่ายตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงพยายามทำอย่างเต็มที่ ก็หวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ เพราะในการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ (21 ตุลาคม) ได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม แม้จะไม่มีอำนาจจับกุม เพราะต้องเป็นคดีพิเศษ แต่ได้ตั้งผู้สอบสวนหลายคนเข้าไปช่วยสนับสนุนสืบสวนข้อมูลกับทางตำรวจ บุคคลที่เราหวังว่าจะได้ตัวมาบางคนก็หลบไปอยู่ต่างประเทศ
ขณะเดียวกันเราเห็นใจผู้เสียหาย ซึ่งตรงกับคำกล่าวที่ว่า ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม โดยเฉพาะในคดีอาญา แต่สำหรับอายุความมีการพิจารณาจะแก้ไขหลายครั้ง แต่ต้องแก้เป็นกฎหมาย รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าจะต้องไม่มีการแก้ไขให้คนใดคนหนึ่ง ซึ่งในกรณีของภาคใต้นั้นต้องพิจารณาให้รอบด้าน
“ขณะนี้ทุกหน่วยต้องทำให้เต็มที่ ในช่วง 2-3 วันนี้ทุกคนต้องทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ คนที่หนีไปจะมีการออกหมายจากตำรวจสากล ไปอยู่ประเทศไหนก็ให้เอาตัวมาได้” พ.ต.อ. ทวี กล่าว
สำหรับความเป็นไปได้ในการออก พ.ร.ก. เพื่อขยายอายุความของคดีตากใบนั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมเคยให้ศึกษา แต่ถือเป็นเรื่องดีที่มีกรรมาธิการจากทุกพรรคมาช่วยกันพิจารณา ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีอคติ และจะพยายามติดตามจับกุม นอกจากนี้ต้องถือเป็นบทเรียนของสังคมไทยที่เมื่อเกิดความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้สังคมติดตาม ส่วนหนึ่งเป็นระบบของกฎหมาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความล่าช้าของสำนวน
พ.ต.อ. ทวี กล่าวต่อไปว่า ทราบว่าเมื่อปี 2562 หลังจากอัยการงดการสอบสวนแล้ว แต่ต้นปี 2567 เมื่อกรรมาธิการติดตามเรื่องนี้ก็ทราบว่าที่ศาลสั่งไต่สวนการเสียชีวิตของประชาชน ศาลยังไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ทำให้เสียชีวิต และผู้เสียชีวิตเป็นใคร คิดว่าตำรวจจะต้องสอบสวนเพิ่มเติม และจากการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทราบว่าตำรวจในอดีตสอบพยานเกือบ 100 ปากภายใน 3 เดือน จนมาสู่การออกหมายจับ แต่เนื่องจากระบบของเรา ถ้าจะฟ้องต้องมีคนไปฟ้องต่อศาล
อย่างไรก็ตามทุกข้อเสนอแนะเรานำไปศึกษาและร่วมหาทางออก ซึ่งเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมยืนยันว่าการเยียวยาผู้เสียหายที่ผ่านมาไม่ใช่การเยียวยาในคดีอาญา แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านความโหดร้ายหรือความอยุติธรรม ต้องให้ความเป็นธรรม และความเป็นธรรมนั้นเกิดจากการเยียวยา
“เรื่องนี้ความจริงมันจบไปแล้ว คนที่นำเรื่องนี้ขึ้นมาคือ กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส. พรรคประชาชาติ นำเรื่องเข้ากรรมาธิการ และเห็นว่าเรื่องนี้มีอายุความล็อกอยู่ ซึ่งมาศึกษาว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยได้ อย่างน้อยที่สุดคดีได้นำไปสู่การออกหมายจับแล้ว ทำให้ผู้เสียชีวิตรับทราบถึงข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการจับกุมก็ไม่ใช่คดีแรกที่เราจับกุมไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนตัวของผู้ที่ถูกออกหมายจับ” พ.ต.อ. ทวี ระบุ
พ.ต.อ. ทวี กล่าวด้วยว่า ถ้าเรามีหลักฐานการไปอยู่ต่างประเทศอย่างเป็นทางการอาจจะมี 2 คน ส่วนที่ไม่เป็นทางการเป็นบุคคลที่เราไปสะกดรอยตามและคาดว่าจะได้ตัว ข้อมูลทางเทคโนโลยีระบุว่าไปอยู่ต่างประเทศแล้ว จึงทำให้เราตามตัวยาก เราพยายามทำเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตามเหลือเวลาอีก 2-3 วัน ขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ญาติผู้เสียชีวิต ประชาชน และบุคคลที่ออกมาต่อสู้ด้วย ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล นักวิชาการ
“ผู้ต้องหาทั้งหมดเขาไม่ฟังผู้บังคับบัญชาและไม่ฟังญาติ เขาคิดว่ามีเสรีภาพ มีอายุความ ซึ่งเป็นเรื่องของโทษตามกระบวนการและกฎหมาย ส่วนพวกที่หลบหนี ความรู้สึกของสังคมก็จะตามเขาไปตลอด” พ.ต.อ. ทวี กล่าว