ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ประกาศความคาดหวังที่จะผลิต ‘ชิปแห่งประชาธิปไตย’ ร่วมกับสหรัฐฯ ในระหว่างการประชุมร่วมกับ ดัก ดูซีย์ ผู้ว่าการรัฐแอริโซนา ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสคนล่าสุดของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (30 สิงหาคม)
โดยการประชุมมีขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไทเป วันนี้ (1 กันยายน) ซึ่งผู้นำหญิงแกร่งของไต้หวันเน้นย้ำถึงการขยายความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมไฮเทคอื่นๆ ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับการขยายอำนาจของเผด็จการ และความท้าทายมากมายหลังยุคโควิด
“เมื่อเผชิญกับการขยายอำนาจเผด็จการและความท้าทายในยุคหลังโรคระบาดครั้งใหญ่ ไต้หวันพยายามที่จะสนับสนุนความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมไฮเทคอื่นๆ สิ่งนี้จะช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ปลอดภัยและทนทานมากขึ้น เราตั้งตารอที่จะร่วมกันผลิตชิปแห่งประชาธิปไตย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยของเรา และสร้างความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น” ไช่กล่าว
สำหรับการเยือนของดูซีย์ ผู้ว่ารัฐแอริโซนา จากพรรครีพับลิกัน เป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสคนล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ท้าทายกระแสกดดันจากจีน ด้วยการเดินทางเยือนไต้หวัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และคณะ ส.ส. สหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนไต้หวัน จนทำให้จีนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง และซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวัน
การเยือนของดูซีย์พร้อมกับประธานหอการค้าและหัวหน้าสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐแอริโซนา มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือการหารือธุรกิจชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
โดยเขาต้องการโน้มน้าวให้บริษัทซัพพลายเออร์ต่างๆ ร่วมทำธุรกิจกับบริษัท TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Corp.) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน ที่กำลังอยู่ระหว่างการสร้างโรงงานมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ในรัฐแอริโซนา
ขณะที่ดูซีย์กล่าวต่อไช่ว่า ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวันนั้น ‘ยิ่งใหญ่ที่สุด’ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์
“การลงทุนของ TSMC ได้ยกระดับศักยภาพสำหรับสิ่งที่เป็นไปได้ระหว่างแอริโซนาและไต้หวัน แอริโซนายืนหยัดเคียงข้างไต้หวัน และเราตั้งตารอที่จะสร้างโอกาสมากมายในอนาคต” ดูซีย์กล่าว
ขณะที่รัฐแอริโซนายังเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศลุค (Luke) ซึ่งเป็นที่ฝึกนักบิน F-16 ของไต้หวันด้วย
แฟ้มภาพ : Photo by Walid Berrazeg / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: