ชิวกั๋วเจิ้ง (Chiu Kuo-cheng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยในวันนี้ (25 พฤษภาคม) ว่าเหตุที่สหรัฐอเมริกาจัดส่งเครื่องบินรบ F-16V จำนวน 66 ลำให้ไต้หวันได้ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมนั้น เป็นเพราะมีปัญหาที่ ‘ระบบซอฟต์แวร์ของเครื่องบิน’ แต่ถึงเช่นนั้นไต้หวันยังคงหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารถจัดส่งเครื่องบินดังกล่าวได้ครบทั้งหมดภายในปี 2026
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 สหรัฐฯ ได้อนุมัติการจำหน่ายเครื่องบินขับไล่ F-16 ของบริษัท Lockheed Martin Corp ให้กับไต้หวัน รวมมูลค่าทั้งหมด 8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเสริมการป้องกันดินแดนให้กับไต้หวันท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากจีน โดยข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้ฝูงบิน F-16 ของไต้หวันมีเครื่องบินรบรวมกว่า 200 ลำ ซึ่งถือว่าเป็นฝูงบิน F-16 ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
โดยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ชิวกั๋วเจิ้งเคยได้ออกมาให้ข่าวว่า การจัดส่งเครื่องบิน F-16V จำนวน 66 ลำจากสหรัฐฯ ล่าช้าออกไปจากเดิมที่มีกำหนดในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากติดปัญหาซัพพลายเชนหยุดชะงัก แต่ในวันนี้เขาได้ออกมาเผยเพิ่มเติมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับระบบซอฟต์แวร์ควบคุมการบินด้วย และทางฝั่งสหรัฐฯ รวมถึงไต้หวันกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่
“โดยหลักการแล้วเครื่องบินทั้ง 66 ลำจะถูกจัดส่งถึงไต้หวันภายในปี 2026 ซึ่งในประเด็นนี้ไม่มีปัญหา” ชิวกั๋วเจิ้งกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอฟังคำตอบของเขาในรัฐสภา
วานนี้ (24 พฤษภาคม) กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์เกิดความล่าช้า และในปีนี้บริษัท Lockheed Martin Corp ได้เปิดตัวเครื่องบิน F-16V ตัวต้นแบบใหม่สองรุ่นด้วยกัน ซึ่งบาห์เรนได้ส่งคำสั่งซื้อหนึ่งในรุ่นดังกล่าวด้วย
ชิวกั๋วเจิ้งยอมรับว่าไต้หวันมีความกังวลที่การจัดส่งล่าช้า แต่ยังสามารถสื่อสารกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างราบรื่น
สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ไต้หวันเปลี่ยนจากที่ใช้เครื่องบิน F-16A/B จำนวน 141 ลำเป็นเครื่องบิน F-16V แทน และได้สั่งซื้อเครื่องบิน F-16V รุ่นใหม่เพิ่มอีก 66 ลำ ซึ่งมีระบบการบิน อาวุธ และเรดาร์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อให้สามารถรับมือการเผชิญหน้ากองทัพอากาศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเครื่องบินขับไล่ล่องหนสุดล้ำอย่าง J-20 ของจีน
ภาพ: Ceng Shou Yi / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
