ไต้หวันเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดในสัปดาห์หน้า แต่จะยังไม่ปลดล็อกอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเกรงว่าการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ เร็วเกินไปอาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีก
โล่ผิงเฉิง โฆษกคณะรัฐมนตรี กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (23 กรกฎาคม) ว่า นายกรัฐมนตรี ซูเจินชาง อนุมัติให้ลดระดับการเฝ้าระวังโควิดของรัฐบาลตั้งแต่วันอังคารที่ 27 กรกฎาคมนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center: CECC) จะเป็นผู้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวต่อไป
ขณะที่บรรดาสื่อท้องถิ่นรายงานว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้สถานที่จัดเลี้ยงงานแต่งงาน สถานที่ท่องเที่ยว และลานโบว์ลิงกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ตลอดจนจะอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวในสถานที่ปิดได้ไม่เกิน 50 คน และกลางแจ้งไม่เกิน 100 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่จำกัดไม่เกิน 5 คน และ 10 คน ตามลำดับ โดยปัจจุบันไต้หวันอยู่ภายใต้การเตือนระดับ 3 ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม
อย่างไรก็ดี มาตรการอื่นๆ เช่น การบังคับสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในสถานที่สาธารณะ และการเว้นระยะห่างทางสังคม จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดระลอกล่าสุดซึ่งเป็นระลอกที่หนักหน่วงที่สุดของไต้หวัน เริ่มอยู่ภายใต้การควบคุม หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากระดับสูงสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจคงข้อจำกัดบางอย่างไว้ เช่น การปิดบาร์และสถานบันเทิง แสดงให้เห็นว่าทางการไต้หวันยังหวั่นวิตกว่าโควิดจะกลับมาระบาดซ้ำอีก และอาจทำให้รัฐบาลต้องกลับมาประกาศล็อกดาวน์อีกเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาคของโลก
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการร้านอาหารต่างรอดูอย่างใกล้ชิดว่า ในการผ่อนคลายข้อจำกัดสัปดาห์หน้านั้น รัฐบาลจะอนุญาตให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้านได้หรือไม่ หลังจากที่เมื่อต้นเดือนนี้รัฐบาลกลางได้ประกาศผ่อนปรนข้อจำกัดการรับประทานอาหารในร้านเพื่อบรรเทาผลกระทบที่มีต่อภาคอุตสาหกรรม แต่รัฐบาลท้องถิ่นเกือบทั้งหมดกลับปฏิเสธประกาศดังกล่าว และอนุญาตให้ร้านอาหารเปิดให้บริการเฉพาะสั่งกลับบ้านเท่านั้น
เฉินสือจง รัฐมนตรีสาธารณสุขไต้หวัน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (19 กรกฎาคม) ว่า รัฐบาลมีแผนที่จะค่อยๆ ผ่อนคลายข้อจำกัด เนื่องจากสถานการณ์การระบาดอยู่ภายใต้การควบคุม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะยังคงคุมเข้มบริเวณชายแดน พร้อมทั้งเผยด้วยว่า รัฐบาลพร้อมที่จะกลับมายกระดับมาตรการควบคุมอีกครั้งหากสถานการณ์เลวร้ายลง
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลไต้หวันพิจารณาผ่อนคลายข้อจำกัดก็คือ จำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่ทางการประกาศล็อกดาวน์เมื่อเดือนพฤษภาคม
ข้อมูลจาก CECC ระบุว่า กว่า 60% ของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในไต้หวันได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party: DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ระบุว่า จากอัตราการฉีดวัคซีนต่อประชากรทั้งหมดในปัจจุบัน คาดว่ารัฐบาลจะบรรลุเป้าหมายอัตราการฉีดวัคซีน 25% ของประชากรทั้งหมดก่อนสิ้นเดือนนี้
ภาพ: Shih Hsun Chao / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: