ชานมไข่มุกไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มโปรดของชาวเอเชียเท่านั้น แต่วันนี้เครื่องดื่มที่มีจุดกำเนิดที่ไต้หวันกำลังเข้าไปผงาด ด้วยการกลายเป็นเครื่องดื่มที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
รายงานของ Bloomberg ระบุว่า ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา ข้อมูลการค้าในปี 2022 แสดงให้เห็นว่า ไข่มุกเหล่านี้กลายเป็นสินค้านำเข้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นความสำเร็จที่หาได้ยากในยุคโรคระบาดที่ผู้บริโภคต่างลดการใช้จ่ายลง
การก้าวกระโดดเข้าสู่เครื่องดื่มที่ชาวอเมริกันหลายคนโปรดปราน ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของผู้มีอิทธิพลที่จิบเครื่องดื่มผ่านคลิปสั้นที่โพสต์ผ่าน TikTok
นอกจากนี้ “บางส่วนได้รับแรงหนุนจากความนิยมของ K-Pop และละครเกาหลี” โคดี้ หวัง รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ CoCo Fresh Tea & Juice ในไทเป กล่าว โดยเครือข่ายชานมไข่มุกที่เห็นจำนวนสาขาในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 77% ระหว่างปี 2019-2022
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- อายุน้อยร้อยล้าน! BEARHOUSE ร้านชานมไข่มุกของ 2 ยูทูเบอร์ ‘ซารต์ & กานต์’ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้กว่า 180 ล้านบาท
- ร้านชานมไข่มุกในฮาราจูกุกำลังจะถึงจุดสิ้นสุด? หลังปิดตัวรวดเดียวนับสิบร้าน ลูกค้าลดเหลือ 10-20% ของยุครุ่งเรือง
- มอง ‘ตลาดชานมไข่มุก’ เมืองไทย ผ่าน The Alley ผู้มียอดขายเดือนละ 1 แสนแก้ว และอยากเป็น Iconic Brand
ในปี 2022 สหรัฐฯ นำเข้ามันสำปะหลังประมาณ 30.5 ล้านกิโลกรัม และแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าประเภทการค้าที่รัฐบาลไต้หวันใช้เป็นตัวชี้วัดในการขายไข่มุก ผู้ขายชาวไต้หวันคิดเป็น 69% ของส่วนแบ่งตลาดตามมูลค่า ตามข้อมูลของ US International Trade Commission
มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไต้หวันไปยังโลกเพิ่มขึ้น 23% เป็นมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3 พันล้านบาทในปี 2021 หรือมากกว่าประมาณ 3 เท่าเมื่อเทียบกับไทยที่อยู่ในอันดับรองลงมา
สิ่งที่น่าสนใจคือ การนำเข้าจากไต้หวันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าไข่มุกจากไทยถึง 64% ก็ตาม
“คุณสามารถกินไอศกรีมชาไข่มุกได้ถ้าคุณไปที่ Costco ในแคลิฟอร์เนีย พวกเขามีชาไข่มุก” หยงเฉิน ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ และผู้เขียน Chop Suey, USA: The Story of Chinese Food in America กล่าว “ตอนนี้มีอยู่ทุกที่จริงๆ ผู้คนยอมรับมันและกำลังกลายเป็นกระแสหลัก”
ชานมไข่มุกถูกคิดค้นขึ้นในไต้หวันช่วงทศวรรษที่ 1980 และจำหน่ายในสหรัฐฯ มานานหลายทศวรรษ โดยส่วนใหญ่จำหน่ายในร้านค้าขนาดเล็กที่ขายในชุมชนชาวเอเชีย บริษัทวิเคราะห์ Future Market Insights ประมาณการว่า ตลาดชาไข่มุกมีมูลค่า 640 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2 หมื่นล้านบาทในปี 2023 จะมีมูลค่าถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 7.6 หมื่นล้านบาทภายใน 10 ปี
ตามรายงานของแพลตฟอร์มรีวิวออนไลน์ Yelp Inc. ระบุว่า มีร้านชานมไข่มุกเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในช่วงปี 2019-2022 ในกลุ่ม 7 เมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่มีชาวเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยพื้นที่ในชิคาโกเพิ่มขึ้นมากที่สุด ตามด้วยฟิลาเดลเฟีย
พื้นที่สำหรับการขยายตัวของชานมไข่มุกในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นมีมากกว่าพื้นที่เล็กๆ ในไต้หวัน โดย Sharetea ซึ่งเป็นเครือข่ายชานมไข่มุกชั้นนำแห่งหนึ่ง ซึ่งดำเนินการโดย Lian Fa International Dining Business Corporation ของไทเป มีสาขาในสหรัฐฯ มากกว่าในไต้หวันอยู่แล้ว
Kung Fu Tea แบรนด์ที่ก่อตั้งในควีนส์ นิวยอร์ก มีสาขามากกว่า 350 แห่ง และตั้งเป้ายอดขาย 240 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 รวมถึงแฟรนไชส์ด้วย เป็นเครือข่ายชานมไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ตามข้อมูลของ Yelp
สิ่งที่น่าสนใจคือ บน TikTok ซึ่งเป็นเจ้าของโดย ByteDance ของจีน วิดีโอเกี่ยวกับชานมไข่มุกมีผู้กดถูกใจหลายแสนคน ผู้มีอิทธิพลบางคนท้าทายตัวเองผ่านการเล่นเกม เช่น การดื่มชานมที่เติมไข่มุกจนเกือบเต็มแก้ว
ลอเรน ก็อดวิน ผู้ทรงอิทธิพลในลอสแอนเจลิส ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 22 ล้านแอ็กเคานต์บน TikTok ได้ทำวิดีโอความยาว 33 วินาทีที่เธอกำลังดื่มชานมไข่มุกแก้วใหญ่ยักษ์เมื่อปีที่แล้ว โดยมียอดไลก์เกือบหนึ่งล้านครั้ง
เคชิช จูนจา เจ้าของร้านชานมไข่มุก Aura ในซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของ TikTok ในช่วงโควิด เมื่อผู้คนหันมาใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ส่งผลให้กระแสความนิยมในไข่มุกเพิ่มขึ้น
“TikTok ทำให้คนอยากลองดื่มชานมไข่มุกมากขึ้น” เจ้าของร้านชานมไข่มุก Aura กล่าว
ภาพ: Noam Galai / Getty Images for Uber Eats
อ้างอิง:
