แม้ฝนจะโปรยปรายก่อนคอนเสิร์ต แต่ก็ไม่มีอะไรหยุดเสน่ห์และพลังของ ‘คิมแทยอน’ ในฐานะศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่า ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ได้จริงๆ กับคอนเสิร์ต TAEYEON CONCERT – The TENSE in BANGKOK ที่เพิ่งจบไปแบบสดๆ ร้อนๆ และครั้งนี้ก็ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตธรรมดา แต่คือการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีบนเส้นทางของแทยอนในฐานะศิลปินเดี่ยวที่สมศักดิ์ศรีในทุกมิติ
จากนาทีแรกที่แสงไฟในฮอลล์ดับลง แท่งไฟสีชมพูส่องสว่าง เสียงระฆังดังกังวานผสานเสียงดนตรีสะท้อนความยิ่งใหญ่เปิดโชว์ เสียงกรี๊ดก็แทบทะลุหลังคาอิมแพ็ค เมื่อแทยอนปรากฏตัวในลุคสุดอลังการสวยราวเทพีจากเทพนิยายกรีก เดินลงบันไดสีแดงช้าๆ ท่ามกลางเพลง ‘Fabulous’ เปิดโชว์อย่างสมศักดิ์ศรี ตามมาด้วย ‘I’ เพลงเดบิวต์ที่ยังทรงพลังเสมอ เมื่อฟังในฮอลล์สดๆ ก็ยิ่งรู้ว่าเติบโตมาไกลขนาดไหน จากวันแรกของการเป็นศิลปินเดี่ยว และ ‘Letter To Myself’ ที่นำมาแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
หลังจบเพลงนี้ แทยอนได้กล่าวถึงความหมายของคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่ฉันเริ่มต้นอาชีพศิลปินเดี่ยว และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมคอนเสิร์ตนี้ถึงมีความหมายกับฉันมาก ดีใจมากๆ ที่ได้มาเจอโซวอนชาวไทยในปีที่ครบรอบนี้” ช่วงแรกของโชว์เน้นโทนอารมณ์ที่ละมุนและจริงใจ เพลงอย่าง ‘Blue Eyes’ ‘Make Me Love You’ และ ‘Heaven’ ถูกขับร้องด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่ทรงพลัง พร้อมหมู่มวลดอกไม้บนเวทีราวกับนางฟ้า
ตลอดทั้งคอนเสิร์ต เสียงร้องของแทยอนคืออาวุธหลักที่สะกดคนดูทั้งฮอลล์ไว้ได้อย่างอยู่หมัด ทั้งไฮโน้ตสูงจนขนลุก ไปจนถึงท่อนบีบหัวใจในเพลงเศร้า ทั้งหมดคือการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเสียงเพลงได้อย่างทรงพลัง
ช่วงกลางของโชว์แทยอนพลิกโหมดจากความละมุนเข้าสู่พาร์ตดาร์กสุดร้อนแรง เปิดช่วงนี้ด้วยเพลง ‘Hot Mess’ แสงไฟสีแดงที่ปลุกอุณหภูมิให้ฮอลล์ร้อนระอุ ตามด้วย ‘Cold As Hell’ ที่มีจังหวะเดือดๆ และการตีความเวอร์ชันใหม่ที่ทั้งแซ่บ ลึกลับ และสะกดใจ โดยเฉพาะ ‘INVU’ เวอร์ชันปีกซาตาน
หลังจากนั้นแทยอนได้เติมพลังความสดใสอีกครั้งด้วย ‘Weekend’ เพลงที่ทำให้ทุกคนโยกตัวตาม ตามมาติดๆ ด้วยอีกหนึ่งเพลงที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นคือ ‘Stress’ จากมินิอัลบั้มแรก ที่พอถึงท่าเต้น ‘Smoke’ อันเป็นเอกลักษณ์ เสียงกรี๊ดก็ดังจนฮอลล์สั่นสะเทือน และต่อเนื่องด้วย ‘Why’ เพลงจังหวะสนุกสนานที่ร้องตามได้ทุกคน
จากนั้นในเพลง ‘Ending Credits’ ช่วงท้ายมีเครดิตปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เผยให้เห็นถึงความทุ่มเทในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ชื่อคอนเสิร์ต โปสเตอร์ ไปจนถึงดีไซน์ของกระดาษโปรย ตอกย้ำความใส่ใจ บรรยากาศในคอนเสิร์ตสลับไปมาระหว่างเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือชื่นชม โดยเฉพาะการระเบิดพลังเสียงอย่างเพลง ‘Blur’ ที่ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือให้แทยอนด้วยความทึ่ง ไม่ใช่แค่เสียงที่ไพเราะ แต่เพราะสามารถเล่าเรื่องราวผ่านเสียงร้องได้อย่างเข้าถึงอารมณ์จนขนลุก
ไฮไลต์สำคัญอีกช่วงที่ขาดไม่ได้คือ ‘แฟนโปรเจกต์’ จากโซวอนไทยที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง วันแรกแฟนๆ พร้อมใจกันใส่ที่คาดหัวรูปดอกกุหลาบ เปรียบเสมือนช่อดอกไม้ช่อใหญ่ ชูป้ายที่เขียนว่า “10 years with TAEYEON MY LIFE IS A BEAUTY” แปรอักษรด้วยกล่องไฟเป็นคำว่า “소원 태연 (S♡NE รัก TAEYEON)” พร้อมทั้งร้องเพลง ‘Rain’ ทั้งฮอลล์แบบชัดเป๊ะ แก้มือจากคอนเสิร์ต ‘PERSONA’ จนแทยอนถึงกับแซว ส่วนวันที่สองมีที่คาดหัวรูปไข่ ‘TAENGGEU’ ชูป้ายที่มีข้อความว่า “ALWAYS HERE, IN ALL TENSE” แปรอักษรด้วยกล่องไฟเป็นคำว่า “TY 만세 (TAEYEON จงเจริญ)” พร้อมเสียงปรบมือจังหวะกีฬา (12 123 12 12 1) ดังกระหึ่มทั่วฮอลล์จนแทยอนบอกว่า “เหมือนอยู่โอลิมปิกเลย” เพราะโซวอนไทยโตมากับกีฬาสีจริงๆ
แม้ตลอดโชว์จะไม่มีการพูดยาวๆ มากนัก แต่สายตาที่แทยอนมองทุกคน การตั้งใจอ่านข้อความบนป้ายโปรเจกต์ รอยยิ้ม และพลังที่ส่งออกมา ก็ชัดเจนพอที่จะบอกทุกคนว่ารู้สึกขอบคุณและรักโซวอนมากแค่ไหน และในช่วงอังกอร์ การได้ฟังเพลงบัลลาดโชว์พลังเสียงอย่าง ‘U R’ ก็ยิ่งเป็นการปิดท้ายค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความประทับใจอย่างสมบูรณ์
TAEYEON CONCERT – The TENSE in BANGKOK จึงกลายเป็นบทสรุปของการเดินทางตลอด 10 ปีในฐานะศิลปินเดี่ยวที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ แม้คอนเสิร์ตจะจบลงแล้ว แต่ความรู้สึกและเสียงร้องจะยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของโซวอนไทยไปอีกนานแสนนาน