มีใครเคยใส่ T90 บ้าง?
กระแสการคืนชีพรองเท้าฟุตบอลหรือที่เรียกกันติดปากคนไทยว่า ‘สตั๊ด’ มีมาให้เห็นบ่อยและถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมาแบรนด์ต่างๆ มีการขุดเอารองเท้าที่ทุกคนคิดถึงกลับมาผลิตใหม่อย่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าในตระกูล Predator ซึ่งนอกเหนือจากรุ่นครบรอบ 30 ปีอย่าง Predator 24 ที่ออกมาสารพัดสีแล้วยังมีการรีเมกรองเท้าซีรีส์สำคัญอย่าง Predator Mania แบบพิเศษสุดๆ ด้วยการสั่งผลิตในโรงงานของ adidas ที่เมือง Scheinfeld ประเทศเยอรมนี ซึ่งออกมาด้วยกันถึง 5 สี
ขณะที่ Nike แบรนด์คู่แข่งก็มีการชุบชีวิตรองเท้ารุ่นตำนานเหมือนกันอย่าง Mercurial Vapor I ต้นกำเนิดซีรีส์รองเท้าสายสปีดที่โด่งดังที่สุดของโลก เพียงแต่ไม่ได้เป็นการรีเมกในแบบ 1:1 แต่มีการปรับพื้นรองเท้าให้เป็นแบบเดียวกับ Mercurial Vapor 16 ในปัจจุบันเพื่อให้ทันสมัยตอบโจทย์การใช้งานจริงได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางการคืนชีพของรองเท้าสายคลาสสิกมากมายเหล่านี้ อาจไม่มีรุ่นไหนที่สะกิดใจของแฟนๆ ได้มากเท่ากับการกลับมาของรองเท้าซีรีส์ ‘T90’ ของ Nike
รองเท้าฟุตบอลที่มีมากกว่าแค่ปุ่มสตั๊ดที่พื้น
ย้อนกลับไปในช่วงต้นยุค Y2K ในวันเวลาที่โลกยังไม่ได้วุ่นวายเหมือนในปัจจุบัน ยุคสมัยนั้นได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็นดังยุคทองของวงการรองเท้าฟุตบอล
นั่นเพราะ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง adidas และ Nike ต่างเร่งการค้นคว้าพัฒนารองเท้ารุ่นใหม่ๆ รูปแบบใหม่ๆ ออกมาท้าทายขีดความอดทนในใจของแฟนฟุตบอลทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง โดยที่การออกแบบของรองเท้าในช่วงเวลานั้นกลายเป็นของ Timeless ที่อยู่เหนือกาลเวลาไปแล้ว
หนึ่งในนั้นคือรองเท้าซีรีส์ ‘Total 90’ หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า ‘T90’ จาก Nike รองเท้าสายพลัง (Power) ที่มีซูเปอร์สตาร์หลายคนเคยสวมใส่มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น เอ็ดการ์ ดาวิดส์, หลุยส์ ฟิโก, โรนัลดินโญ, พอล สโคลส์, โรแบร์โต คาร์ลอส หรือแม้แต่ ‘จักรพรรดิแห่งกรุงโรม’ ฟรานเชสโก ต็อตติ
T90 ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 2000-2004 โดยออกรุ่นแรกคือ ‘Air Zoom Total 90’ ซึ่งเป็นไซโลหลักใหม่มาแทนที่ของ Air Zoom International, Air Zoom Italia และ Air Zoom Roma อยู่คู่กับอีก 2 ไซโลหลักอย่าง Mercurial และ Tiempo
ในขณะที่ Mercurial นั้นคือรองเท้าสายความเร็ว (Speed) ของปีกหรือผู้เล่นที่มีความเร็วสูง ส่วน Tiempo คือรองเท้าสายคอนโทรลคลาสสิก (Control) สำหรับเหล่าจอมทัพหรือจอมเทคนิคทั้งหลาย
รองเท้า T90 คือรองเท้าที่ถูกวางโพสิชันเอาไว้สำหรับผู้เล่นสมัยใหม่ (Modern player) ที่เน้นความแม่นยำ (Precision) ความหนักหน่วงรุนแรง (Power) และการควบคุมบอล (Control) สำหรับนักฟุตบอลที่สวมใส่รองเท้ารุ่นนี้
ส่วนที่มาของชื่อนั้น ‘Total 90’ ก็ตรงตามความหมาย คือการช่วยทำให้เล่นได้เต็มศักยภาพของตัวเองตลอดทั้ง 90 นาทีในสนาม
โพสิชันที่ล้ำและแหวกแนวนี้ทำให้ T90 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีการพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2002 ปีของฟุตบอลโลกที่เอเชีย (เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น) Nike ออกรุ่นใหม่ ‘Air Zoom T90 II’ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในรองเท้าที่ถูกสวมใส่และเป็นที่จดจำมากที่สุดจากฟุตบอลโลกในปีนั้น ด้วยการออกแบบฟังก์ชันล้ำสมัยอย่างระบบเชือกรองเท้า Asymmetrical Lacing System และสีสันที่จัดจ้านในย่านนี้
ก่อนที่จะมีการออกรุ่นใหม่อีกครั้งในปี 2004 กับ ‘Air Zoom T90 III’ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโลโก้เฉพาะตัวเลข ‘90’ ในวงกลม ซึ่งทำให้ T90 กลายเป็นหนึ่งในรองเท้าสุด Iconic ที่อยู่ในความทรงจำดีๆ ของแฟนฟุตบอลตลอดกาล
และที่สำคัญคือ T90 ไม่ได้มีแค่รองเท้า แต่ยังมีเสื้อผ้าที่สุดแสนจะเท่ในยุคสมัยนั้นด้วยเอกลักษณ์ที่จดจำได้อย่างง่ายดายอย่างโลโก้วงกลมที่มีเลข ‘90’ ด้านใน
ตรงนี้เองที่ทำให้ T90 สำคัญต่อเกมฟุตบอลในรูปแบบที่ต่างจากรองเท้าในตำนานรุ่นอื่นๆ
นั่นเพราะที่ผ่านมาฟุตบอลนั้นเป็นเรื่องของเกมกีฬาในสนาม ไม่ได้ข้ามฝั่งออกมาในเรื่องของแฟชั่นเครื่องแต่งกายมากนัก ซีรีส์ T90 ของ Nike เป็นหนึ่งในการจุดประกายสำคัญที่เชื่อมโยงโลกสองใบเข้าด้วยกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์
หากใครทันฟุตบอลยูโร 2004 คงจำกันได้ถึงชุดการแข่งขันทีมชาติโปรตุเกส เจ้าภาพในหนนั้นที่เป็นเสื้อสีแดงมีหมายเลขของนักฟุตบอลอยู่ในวงกลมตรงกลาง ชุดนี้กลายเป็นหนึ่งในชุด Iconic ของเกมฟุตบอลที่ยังคงเป็นที่ต้องการและตามหาของสายนักสะสมเสื้อบอลคลาสสิกอยู่ด้วย
ดังนั้นการที่ Nike นำ T90 กลับมาอีกครั้งจึงทำให้แฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่รอคอยการกลับมาของรองเท้าซีรีส์นี้ได้ดีใจกัน แม้ว่ามันจะไม่ใช่การกลับมาในแบบรองเท้าฟุตบอล แต่เป็นรองเท้าสนีกเกอร์สำหรับสวมใส่ทั่วไปก็ตาม
โดยความจริงแล้ว Nike ชิมลางตั้งแต่การเปิดตัว 3 สีแรก (Black / Metallic Silver, Dynamic Yellow / Green Spark, Bordeaux / Metallic Silver) ก่อนที่จะเปิดตัวเพิ่มอีก 3 สีในเดือนธันวาคมปีกลาย
พร้อมกับภาพของฮีโร่ในอดีตที่เคยใส่ T90 อย่าง เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ที่ใส่ T90 III ในสี Navy Blue / Metallic Silver ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลลับๆ ที่ชื่อว่า ‘Secreto Maximus’ ซึ่งจัดโดย ทราวิส สกอต ที่สร้างความฮือฮาได้อย่างมากทีเดียว
คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ จริงอยู่ที่ T90 ไม่ได้เป็นแค่รองเท้าฟุตบอล หากแต่เป็นผลงานที่เป็นตัวแทนความรัก ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และความคลั่งไคล้ในเกมลูกหนังที่สามารถไปต่อได้ถึงโลกของแฟชั่น
แต่ที่สุดแล้วแฟนๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่คิดถึงและอยากเห็น T90 กลับมาในรูปแบบของรองเท้ามีปุ่มสตั๊ดให้ไประเบิดพลัง ปลดปล่อยความทะเยอทะยานในสนามอีกครั้ง
ที่ผ่านมามีเพียงแค่ ‘T90 Laser I’ รุ่นเดียวที่กลับมารีเมกใหม่ในปี 2019 และไม่เคยมีรุ่นอื่นได้รับการรีเมกอีกเลย
เป็นไปได้ไหมที่ Nike กำลังส่งสัญญาณผ่าน T90 III แบบสนีกเกอร์ (ซึ่งในประเทศไทยมีวางขายผ่าน SNKRS เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาและหมดไปเรียบร้อยแล้ว!) ว่าเราอาจจะมีโอกาสได้กลับมาพบกันใหม่อีกครั้ง
ไม่ต้องตีความอะไรใหม่ตามยุคสมัยก็ได้
มาแบบเดิมๆ นี่แหละ คิดถึงนักเชียว 🙂
อ้างอิง